‘ปารีณา’ เดือดอ้าง ‘ธนาธร’ ท้าทาย ร้องกรมป่าไม้ตรวจสอบที่แม่ “สมพร” ส่งหลักฐานแจงครอบครอง

“ปารีณา” ร้องกรมป่าไม้ขอให้ตรวจสอบที่ดิน 500 ไร่ในครอบครองของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ร้องขอให้ดำเนินการด้วยความยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ด้านอธิบดีกรมป่าไม้ เผยนางสมพร ส่งเอกสารการครอบครองที่ดินมาให้ตรวจสอบแล้วก่อนที่ น.ส.ปารีณา จะร้อง จำนวน 77 แปลง เนื้อที่รวม 3,098 ไร่ 1 งาน 27.3 ตร.วา

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่กรมป่าไม้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ายื่นเอกสารร้องกรมป่าไม้ ให้ตรวจสอบกรณีที่ดิน ภบท.5 และ นส 2 บริเวณหมู่ 3 ด่านทับตะโก หมู่ 3 รางบัว และหมู่ 14 รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยมี นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน
ทั้งนี้ ในหนังสือ ระบุว่า ตามที่ นางสมพร จึงรุ่งเรืิงกิจ ได้เคยครอบครองที่ดินประเภท ภบท.5 และ นส 2 ถึงแม้จะมีการส่งมอบที่ดินคืนให้ชุมชนแล้ว อย่างไรก็ดี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และตามกฤษฎีกาที่เคยตีความ ความผิดสำเร็จแล้ว ได้มีการเข้าไปครอบครองที่ดินอย่างเปิดเผยและจัดเวรยามเฝ้าที่ดินดังดล่าว จึงขอให้ทราบว่าทางอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่เลือกปฎิบัติหรือไม่อย่างไร หากผลเป็นประการใดขอให้ชี้แจงให้ทราบและดำเนินการด้วยความยุติธรรมด้วย อีกทั้งยังมีปรากฎมีการตัดไม้หลายไร่ในที่ดินบริเวณดังกล่าวที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เคยร้องเรียนไป แต่ป่าไม้ ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคเข้ามาตัดไม้ และไม่สามารถจับคุมผู้เข้ามาตัดไม้ได้จึงขอให้ดำเนินการติดตามผู้ดำเนินการตัดไม้ดังกล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

จากนั้น น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมายื่นหนังสือถึงกรมป่าไม้ เนื่องจากนายธนาธร ให้สัมภาษณ์เป็นเชิงคล้ายการท้าทายตน ประกอบกับการที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เดินทางเข้าชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิ ชอบ เรื่องการตรวจสอบที่ดินของตน จึงนำไปสู่การตรวจสอบที่ดินของแม่ของ นายธนาธร ด้วย ซึ่งมีความชัดเจนว่า นางสมพร ครอบครองที่ดิน โดยมีหลักฐานการครอบครองเป็นใบ ภ.บ.ท. 5 และ น.ส. 2 อย่างเปิดเผย จึงเดินทางมายื่นหนังสือในฐานะกรรมาธิการ ป.ป.ช. แม้ว่าเมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช จะยึดคืนภาระงานทั้งหมดที่เคยมอบหมายไปก็ตาม

น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า การครอบครองที่ดินของ นางสมพร เป็นความผิดสำเร็จแล้ว เหมือนกับตนที่ถูกดำเนินคดีด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ว่าด้วยการครอบครองที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ถือว่าเป็นการบุกรุกเขตป่าไม้ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องที่ดินของตนก็ยังคงเป็นคดีความอยู่ แต่กลับมาดำเนินการร้องเรียนที่ดินของคนอื่นจะถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่ ขอยืนยันว่าตนสามารถดำเนินคดีกับ นางสมพร ได้นานแล้ว แต่ที่เพิ่งมาดำเนินการร้องเรียนเพราะได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอยู่ ตนและคณะกรรมาธิการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ และยังเป็นการออกมาปกป้องตนเองที่ถูกการดำเนินคดีลักษณะนี้เช่นเดียวกัน ฉะนั้น ก็ควรที่จะมีการดำเนินการด้วยมาตร ฐานเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปารีณา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีคดีความครอบครองที่ดินในพื้นที่ ราชบุรี เนื่องจากอยู่ในกระบวนการพิจารณาของชั้นศาล โดยระบุว่า จะให้นายทศพล เพ็งส้ม ทนายความของพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูแลคดีนี้เป็นผู้ชี้แจงเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ที่ดินของตนอยู่ในที่ของป่าไม้
เมื่อถามว่า กรณีที่ดินนางสมพร กับกรณีที่ดินของน.ส.ปารีณา มีความแตกต่างกันอย่างไร โดย น.ส.ปารีณา ยอมรับว่า ที่ดินทั้งสองเหมือนกัน เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการครอบครอง จึงเข้าข่ายเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้

ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะนำเรื่องร้องเรียนเสนออธิบดีกรมป่าไม้ ทั้งนี้ขอย้ำว่า กรมป่าไม้ตลอด 123 ปี ไม่มีการใช้สองมาตรฐานในการดำเนินการกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การตรวจสอบที่ดินของนางสมพร กรมป่าไม้ทำมาก่อนที่ น.ส.ปารีณา จะมาร้องเรียน โดยนางสมพร แสดงเจตนามอบให้คนนำเอกสารการถือครองที่ดินมาให้กรมป่าไม้ตรวจสอบ เป็นที่ดินไร่พรพัฒนา 2 จำนวน 77 แปลง เนื้อที่รวม 3,098 ไร่ 1 งาน 27.3 วา มีโฉนด 1 แปลง นส3 ก จำนวน 55 แปลง นส3 จำนวน 14 แปลง นส2 จำนวน 7 แปลง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบในพื้นที่จริงและจะตรวจสอบเอกสารร่วมกับกรมที่ดินอีกครั้ง ส่วนที่นางสมพร แสดงเจตนาคืนที่ดินทั้งหมด ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว เพราะจะต้องดูเอกสารการครอบครองก่อนว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ น่าจะใช้เวลา 2 – 3 วันจะเสร็จสิ้น