“ธอส.” ขยับราคาบ้านล้านหลังเป็น 1.2 ล้านบาท รับเกณฑ์บีโอไอ

“ธอส.” ขยายราคาบ้านล้านหลัง เขตกรุงเทพ-ปริมณฑล เป็น 1.2 ล้านบาท ผู้ประกอบการเร่งก่อสร้าง 1 หมื่นยูนิต ในพื้นที่บางซ่อน แบริ่ง และใจกลางพระราม 9

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธอส.เตรียมหารือกระทรวงการคลัง เพื่อขยายเพดานราคาที่อยู่อาศัยในการปล่อยสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จากเดิมกำหนดมูลค่าที่อยู่อาศัยต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็น 1.2 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีการปรับเกณฑ์เพดานสิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ถึง 1.2 ล้านบาท

“จากการสำรวจพบว่าประชาชนในกรุงเทพฯ ยังต้องการที่อยู่อาศัยอีกมาก ฉะนั้น ธอส.จึงได้หารือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย และล่าสุดมีผู้ประกอบการลงมือก่อสร้างบ้านใจกลางกรุง ราคา 1.2 ล้านบาท ประมาณ 1 หมื่นยูนิต เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ โดยเป็นพื้นที่ในเขตบางซ่อน แบริ่ง และใจกลางพระราม 9” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับโครงการบ้านล้านหลังนั้น เป็นการสนับสนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท กรอบวงเงินโครงการรวม 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) วงเงิน 50,000 ล้านบาท และสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) วงเงิน 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – ปีที่ 5 คงที่ 3.00% ต่อปี ล่าสุด ณ วันที่ 17 ก.พ.2563 มีผู้ยื่นคำขอกู้แล้วจำนวน 23,766 ราย วงเงิน 17,513 ล้านบาท และธอส. ได้อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านแล้ว 22,463 ราย วงเงินกู้ 15,988 ล้านบาท

“ธอส.ตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อในโครงการนี้เฉลี่ย 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี คาดว่าจะมีเม็ดเงินปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยถึงวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 ส่วนจะมีการขยายวงเงินเพิ่มเติมหรือไม่นั้น จะต้องรอดูความต้องการของประชาชนก่อน” นายฉัตรชัย กล่าว

ขณะที่โครงการบ้านดีมีดาวน์ ที่ภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 5 พันบาท กำหนดผู้เข้าร่วมโครงการ 1 แสนราย ที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 – 31 มี.ค. 2563 นั้น ปัจจุบันมีผู้ยื่นลงทะเบียนทั้งหมดแล้ว 9.7 หมื่นราย โดยในจำนวนมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ของธอส.เพียง 5 หมื่นราย เบื้องต้น ธนาคารคืนเงินไปแล้ว 6.8 พันราย

ด้าน นายวิชัย ประเสริฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท กรีน เมโทร จำกัด ผู้พัฒนาโครงการหมู่บ้านจัดสรรโครงการ ดิ เอนทรีโอ กล่าวว่า บริษัท กรีน เมโทร ได้จัดทำโครงการ ดิ เอนทรีโอ ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น เฟสแรกแล้วจำนวน 170 หน่วย ตั้งอยู่ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้จากธอส.จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ้านและพัฒนาสาธารณูปโภคในโครงการบ้านล้านหลัง ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายแล้วทั้งหมด 170 หน่วย

ดังนั้นบริษัท กรีน เมโทร จึงมีแผนขยายการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอีกจำนวน 1,200 หน่วย ในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ขอนแก่น จ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด และจ.นครราชสีมา เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดจะใช้วงเงินสินเชื่อของธอส.จำนวน 600 ล้านบาท ที่เหลือใช้เงินทุนของเอกชนที่มีการระดมทุน