ธอส.ขยายราคาบ้านล้านหลัง 1.2 ล.เอกชนเร่งก่อสร้างกว่า 1 หมื่นยูนิตไฮไลต์ใจกลางพระราม 9

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส) เปิดเผยว่า ธอส.เตรียมขยายราคาโครงการบ้านล้านหลัง เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็น 1.2 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ 1 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามมติ ครม. ให้สิทธิพิเศษด้านภาษีกับผู้ประกอบการยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3 ปี ซึ่งมติดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองซื้อให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่สูงขึ้น ล่าสุดมีผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลกำลังก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับโครงการบ้านล้านหลังกว่า 1 หมื่นยูนิต โดยมีพื้นที่เช่น ใจกลางพระราม 9 บริเวณบางซ่อน และบริเวณแบริ่ง

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า โครงการบ้านล้านหลังให้วงเงินสำหรับผู้รายได้น้อยซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท รวม 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสำหรับประชาชน 5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 2.2 หมื่นราย วงเงินเกือบ 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มีการอนุมัติสินเชื่อเดือนละ 1 พันล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นสุดโครงการในปี 2564 จะสามารถปล่อยกู้เต็มวงเงิน หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่าจะขยายหรือไม่ ธอส.พร้อมจะดำเนินการต่อไป

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ส่วนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงการมีวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดมีผู้ประกอบการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 2 โครงการวงเงินกว่า  141 ล้านบาท คือ โครงการ City Park Condo อาคาร B จำนวน 210 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ดำเนินการโดย บริษัท อีสาน พิมานกรุ๊ป จำกัด และโครงการ ดิ เอนทรีโอ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดย บริษัท กรีนเมโทร จำกัด

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ทั้งนี้โครงการ ดิ เอนทรีโอขายหมดใน 1 วัน ดังนั้นบริษัท กรีนเมโทร จำกัด หารือกับธนาคาร การลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มจำนวน 1.2 พันยูนิต  ในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ขอนแก่น จ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นครราชสีมา เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เท่าที่ผู้ประกอบการสำรวจพบว่ามีความต้องการประมาณ 3-4 พันยูนิต ซึ่งคาดว่ากรีนเมโทรขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าวประมาณ 600 ล้านบาท ที่เหลือใช้เงินทุนของเอกชนที่ระดมมา

นายฉัตรชัยกล่าวว่า จากจำนวนผู้ลูกค้ารายย่อยที่ร่วมโครงการบ้านล้านหลังที่ล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่หากซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท จะผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงแค่ 3,800 บาทต่อเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 5 หมื่นบาทต่อราย หากลงทะเบียนและมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการบ้านดีมีดาวน์ และจดทะเบียนนิติกรรมจำนองภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนกว่า 9.7 หมื่นล้าน ผ่านเกณฑ์ 5 หมื่นราย และคืนเงินไปแล้ว 6.8 พันราย หลังจากนี้หากใช้สิทธิไม่เต็มวงเงินคงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่าจะขยายเวลาหรือไม่