‘นายกฯ’ มอบเงินครอบครัวเหยื่อกราดยิง เผยในหลวง-ราชินี พระราชทานกำลังใจชาวโคราช

“นายกฯ” มอบเงินครอบครัวเหยื่อกราดยิงโคราช ขอโทษเหตุการณ์สูญเสีย เผยในหลวง-ราชินี พระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย พร้อมพระราชทานกำลังใจให้ชาวโคราช ก้าวผ่านเหตุการณ์ไปด้วยสติ รักสามัคคี

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงประชาชน โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และทีม ส.ส.ร่วมต้อนรับด้วย

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จำนวนทั้งสิ้น 34 ล้าน 8 แสนบาท โดยมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวน 24 ราย จากทั้งหมด 27 ราย รายละ 1 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บสาหัส 19 ราย จาก 21 ราย รายละ 2 แสนบาท และบาดเจ็บไม่สาหัส 32 ราย จากทั้งหมด 36 ราย รายละ 1 แสนบาท สำหรับรายที่เหลือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาจะได้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ตามภูมิลำเนา นอกจากนี้ยังมอบเงินค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ของกระทรวงยุติธรรม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่นายกฯ นำความห่วงใยจากรัฐบาล คณะรัฐมนตรีและจากคนทั้งประเทศมาถึงพวกเรา วันนี้มีหลายท่านที่มาร่วม มีทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ขอเรียนว่าในฐานะที่เป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่ร่วมกันบริจาคเงินและในฐานะที่เป็นคนโคราช เกิดโคราชเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งอย่างสุดซึ้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวโคราช เข้าใจดีถึงความรู้สึก ความสูญเสียโศกเศร้าที่ทุกคนต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว ต้องดูแลรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสาหัสและไม่สาหัส ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน

“สิ่งสำคัญที่สุด พระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ พร้อมพระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย และพระราชทานกำลังใจให้พวกเราได้ก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยความมีสติ มีปัญญา รักสามัคคี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เราจะต้องน้อมนำพระราชกระแสมาเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อน ในการดำรงชีวิตของเราให้เดินข้างหน้าต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สำหรับเงินที่ช่วยเหลือนั้น วันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรัฐบาลและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกองทุนต่างๆ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งไปแล้ว ส่วนที่ 2 คือภาคเอกชนและส่วนที่ 3 คือเงินบริจาคที่จะเริ่มทยอยโอนให้ตามลำดับ คิดว่าคงไม่น้อยเหมือนกัน แต่คงทดแทนความสูญเสียไม่ได้ ชีวิตมีค่าทุกชีวิตอยู่ที่ว่าเราจะดำรงชีวิตกันอย่างไรต่อไป หลายคนขาดเสาหลัก หลายคนเสียลูกเสียหลานอะไรก็แล้วแต่ฉะนั้นเราจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ซึ่งรัฐบาลและคนประเทศพร้อมใจกันช่วยเหลือบริจาคเงิน รัฐบาลเร่งรัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาหาเงินที่จะมามอบให้กับพวกเราและให้เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้มีการชดเชยเยียวยาให้เร็วที่สุด ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการทุกท่าน รวมถึงนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และส.ส.ที่ช่วยกันประสานงานบูรณาการดูแลพวกเรา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินที่มีค่า แลกด้วยชีวิตของญาติพี่น้อง เราต้องใช้อย่างคุ้มค่า หลายอย่างเป็นกองทุนในการดำรงชีพและแก้ปัญหาที่มีอยู่เดิมของพวกท่าน นำไปดูแลบุตรหลานให้ได้รับการศึกษา ขอให้จัดระเบียบให้ดี จะได้ภาคภูมิใจว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ได้ดูแล คนที่อยู่ให้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างเป็นปกติในวันข้างหน้า เราต้องเปลี่ยนพลังเหล่านี้ให้เป็นพลังขับเคลื่อนให้ก้าวหน้าต่อไปในวันข้างหน้า ตนนึกถึงเสมอ รัฐบาลจะไม่ลืม รวมทั้งผู้ที่สนับสนุนให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่ ที่จะต้องมีการประกาศเกียรติคุณเจ้าหน้าที่ต่อไปหลายร้อยคน เป็นการให้กำลังใจทั้งผู้สูญเสีย ผู้บาดเจ็บสาหัสและไม่สาหัส รวมไปถึงจิตอาสา อาสาสมัคร ในการดูแลที่เกิดขึ้น นั่นคือน้ำใจของคนไทยและที่มีต่อคนโคราช สิ่งที่จะขอต่อไปคือทำอย่างไรให้โคราชปกติเหมือนเดิม ฉะนั้นเราต้องช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนในโคราช ดังนั้นในเรื่องการดำรงชีวิตการจับจ่ายซื้อของอะไรต่างๆ ขอให้เป็นปกติในระยะเวลาอันรวดเร็วในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนจะไปเยี่ยมเยียนในพื้นที่เกิดเหตุด้วยในสถานประกอบการ เราต้องแสดงให้เห็นความเข้มแข็งเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อไปยังภาคเอกชนธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลก็ดูแลอยู่แล้วในส่วนลูกหลานให้ติดตามเรื่องการศึกษาขอให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าประหยัดเป็นทุนสำรองของครอบครัวให้ดีและวางแผนลูกหลานให้ดี และขอโทษ ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลก็ต้องดูแลแก้ปัญหา ตนก็มาดูแลท่านเป็นระยะๆ ไปตามหน้าที่และเป็นที่ใจของตนที่จะมาด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อเช้าได้ไปกราบย่าโมไม่ได้กลับบ้านนานแล้วหลายปี ทุกครั้งที่มาก็ไปกราบขอให้พวกเรามีความสุข ให้คนชาวโคราชมีความสุข และขอให้รัฐบาลสามารถที่จะทำงานประเทศชาติต่อไปได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่จะต้องทำเพื่อพวกเรา ไม่ใช่เฉพาะชาวโคราช ต้องดูแลประชาชนทั้งประเทศทุกจังหวัด ฉะนั้น วันนี้ก็มีปัญหาที่กำลังเผชิญหน้าทั้งเรื่องเศรษฐกิจฐานราก รัฐบาลทำทุกอย่างทำได้มากน้อยเป็นไปตามห้วงเวลางบประมาณและยังมีปัญหาภัยแล้ง อีกที่ต้องแก้ปัญหาพืชผลการเกษตร ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ขออะไรท่านมากกว่านี้ ขอให้เข้าใจยินดีที่จะทำทุกอย่างให้มีความสุขในเร็ววันและวางอนาคตให้ลูกหลานของท่าน ต้องดูแลซึ่งกันและกันขอบคุณอีกครั้ง

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมกล่าวว่า ถ้ามีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือ ให้แจ้งไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังนำเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นร่วมใจสร้างมหาเจดีย์ พุทคยา จำนวน 200 องค์ มามอบให้ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงประชาชน รวมถึงจะมอบให้ประชาชนที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ด้วย อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาของนายกฯครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิง