“แรมโบ้”โว มียุทธการ “เกลือจิ้มเกลือ” สู้ศึกซักฟอก ลั่นซีกรัฐบาลรู้ไส้พุงหมดแล้ว

“แรมโบ้” เผยยุทธการ “เกลือจิ้มเกลือ” สู้ศึกซักฟอก ลั่นซีกรัฐบาลรู้ไส้พุงหมดแล้ว แนะ “เพื่อไทย” เปลี่ยนชื่อทีมใหม่ “ทีมน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางในฝ่ายของรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเห็นอาการดิ้น ทุรนทุรายของฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงหน่อยสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.อ..เฉลิม อยู่บำรุง และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แล้วรู้สึกยิ่งกว่ากินปูนร้อนท้องเสียอีก ตามที่ตนและคณะเคยเสนอข่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปหลายครั้งแล้วว่า คณะทำงานฯ ของพวกเราในซีกฝ่ายรัฐบาลมีมารยาททางการเมืองพอที่จะไม่ตอบโต้ หรือขุดคุ้ยข้อมูลฝ่ายค้าน ถ้าทางฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในกรอบกติกาอย่างสร้างสรรค์ ไม่เล่นวิธีการสกปรกในสภาฯในการใส่ร้ายป้ายสี สร้างหลักฐานอันเป็นเท็จต่อท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ทั้งที่รัฐบาลในอดีตเองก็เคยทำความเลวร้ายทิ้งไว้ให้กับบ้านเมืองมากมาย จนกระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) และคณะต้องออกมาประคับประคองแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมากมายที่รัฐบาลในอดีตได้ทิ้งขยะเน่าเสียไว้จากพฤติกรรมของผู้นำบางคนที่มีแสวงหาผลประโยชน์มีการทุจริตคอร์รัปชั่น กอบโกยโกงกินมากมาย ทิ้งคราบน้ำตาความเจ็บปวดและความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนไว้ดูต่างหน้าแต่คนที่ร่ำรวยก็หนีไปเสวยสุขกันถ้วนหน้า

“ผมจึงเตือนมาด้วยความหวังดีว่าถ้าฝ่ายค้านอภิปรายด้วยวิธีการสกปรก เราก็ต้องใช้ยุทธวิธีเกลือจิ้มเกลือเหมือนกัน มีทั้งตอบโต้ในสภาฯ และนอกสภาฯ ในการอภิปรายของฝ่ายค้านแต่คนจะมีการเก็บข้อมูลการอภิปรายอย่างละเอียดทุกคำพูด เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องคดีให้เด็ดขาด จะได้เป็นบรรทัดฐาน มิให้สร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ ปั้นน้ำเป็นตัวใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความผู้ถูกอภิปรายในอนาคต ผมขอยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ไม่เคยสั่งให้พวกผมและคณะตั้งวอร์รูมปกป้องท่านและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยนายกฯพร้อมชี้แจงในข้อเท็จจริง แต่พวกผมและคณะเห็นว่าฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยก็ยังใช้คนนอกสภา อาทิเช่น คุณหญิงหน่อย ร.ต.อ.เฉลิม นายภูมิธรรม มาเป็นทีมวอร์รูม นอกสภาฯได้ ทำไมพวกผมจะทำไม่ได้ ฝ่ายค้านอย่ากินปูนร้อนท้องเลย ถ้าอดีตรัฐบาลพวกท่านไม่ได้ทำชั่วทำเลวทำความเสียหายอะไรไว้ในบ้านเมืองท่านจะไปกลัวทีมวอร์รูมนอกสภาฯ อย่างคณะพวกผมทำไม” นายสุภรณ์ กล่าว

นายสุภรณ์ กล่าวว่า พวกตนที่เปิดหน้าตามาส่วนใหญ่ก็คนที่เคยรู้ไส้รู้พุงพวกท่านมาทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็น นายจำลอง ครุฑขุนทด นายอำนวย คลังผา นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ นายเอกภาพ พลซื่อ นายฉลอง เรี่ยวแรง นายเวียง วรเชษฐ และอีกมากมายที่เคยอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกันเห็นทุกสิ่งรู้ทุกอย่างในบ้านหลังเก่าจึงรับไม่ได้กับพฤติกรรมของหัวหน้าครอบครัวและคนในบ้านบางคนที่กินมูมมาม จนพวกตนต้องหนีออกจากบ้าน ที่สกปรกก็แค่นั้นเอง หรือว่าคนที่ยังอยู่ในบ้านหลังเก่าหลังเดิมชินชากับพฤติกรรมมูมมามแบบนี้ไปเสียแล้ว อยากรู้ให้แวะไปเยี่ยมไปถามพี่น้องผมที่ต้องมารับชะตากรรมอันเลวร้ายจนติดคุกติดตารางกันมากมาย ว่างๆ พวกท่านทั้งหลายหยุดพักดื่มไวน์สักวัน หาเวลาแวะไปเยี่ยมเยียนพี่น้องตนที่เรือนจำกันบ้างว่าท่านเหล่านั้น ที่อยู่ในเรือนจำทุกข์สุขอย่างไรกันบ้าง ต้องติดคุกติดตารางอยู่อย่างลำบากน่าสงสารเพราะอะไรเพราะใคร หรือว่าผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยลืมพี่น้องตนในเรือนจำกันหมดแล้ว

นายสุภรณ์ กล่าวว่า ดังนั้น การเล่นการเมืองของฝ่ายค้านที่กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ โดยใช้วิธีการให้ข่าวในสิ่งที่ไม่เป็นจริงใส่ความท่านตลอดมา ถือว่าเป็นมารยาททางการเมืองที่ดีหรือไม่ ฝ่ายค้านต้องถามประชาชนว่า มีรัฐบาลและผู้นำที่มีปัญหาเกิดความขัดแย้งชุมนุมบนท้องถนนตลอดระยะเวลา 10 ปี สร้างความเดือดร้อนต่อประเทศต่อประชาชนและเสียหายย่อยยับกับเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวง คนไทยต้องมาขัดแย้งแบ่งสีแบ่งพรรคแบ่งพวกทะเลาะเบาะแว้งกันจนเกือบจะฆ่ากันเอง แผ่นดินเกือบนองเลือด เพื่อใคร เพื่อคนใหนหรือปกป้องผลประโยชน์ของคนบางคนหรือบางตระกูล จะได้มีอำนาจมาเป็นใหญ่ในบ้านเมืองอีก เพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตนอยากถามพรรคเพื่อไทยชอบแบบนั้นใช่หรือไม่ ตนขอถามกลับว่าถ้าไม่มีคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์และแม่ทัพนายกองในวันนั้น มาห้ามศึกแก้ไขสถานการณ์ในขณะนั้น ประชาชนคนไทยและประเทศไทยจะอยู่ในสภาพอย่างไร

“ท่านเคยถามหัวใจประชาชนคนไทยทั้งประเทศหรือยังว่า ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มือสกปรกแสวงหาผลประโยชน์บนความวุ่นวายแตกแยกของบ้านเมืองบนคราบน้ำตาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ทั้งที่ประชาชนจะยากจนอดอยากปากแห้งอย่างไรช่างหัวปะไร ขอให้พวกข้าพเจ้ามีอำนาจกอบโกยเงินทองจนร่ำรวยมหาศาลอย่างนั้นใช่หรือไม่

วันนี้ถ้าเรามีผู้นำบ้านเมืองมีนายกรัฐมนตรี ที่ใจซื่อมือสะอาดไม่เคยคิดโกงกินบ้านเมืองไม่คิดทุจริตคอร์รัปชั่น ลมหายใจเข้าออกของท่านคือความห่วงใยประชาชน พวกท่านลองถามหัวใจประชาชนคนไทย อยากเลือกนายกรัฐมตรี แบบใหน กันแน่ครับ เพราะผมเชื่อมันว่า ประชาชนคนไทยต้องการนายกรัฐมนตรี ที่ใจซื่อมือสะอาด ไม่เคยคิดโกงกิน อุทิศตน ทำงานเพื่อบ้านเมืองดังเช่น พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแน่นอน ดังนั้น ประชาชนคนไทยมีบทเรียนสอนใจอันเจ็บปวดมาแล้ว ไม่มีวันลืมอดีตที่ผ่านมา ได้ง่ายๆ” นายสุภรณ์ กล่าว