นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยกว่า 7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 27% ของภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สร้างรายได้กว่า 5 แสนล้านบาท โดยถือว่าจีนเป็นประเทศที่ส่งออกนักท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่นจีนยังไม่สามารถยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกปี 2563 เติบโตขึ้นได้ไม่มากเท่าที่ควร ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะโตประมาณ 2.8% แต่จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้เพียง 2.5% เท่านั้น

ทั้งนี้ หากประเมินจากภาพรวมของข้อมูลล่าสุดระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 43.47% แต่หากคิดเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนลดลงกว่า 86.55% โดยการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหวังว่าสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์

“ขณะนี้ต้องการขอให้ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมในภาคการท่องเที่ยว ช่วยกันเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เคยซื้อตั๋วหรือจองห้องพักไว้แล้ว หันกลับมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะทำหน้าที่ประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อเปิดบริการเครื่องบินเช่าหมาลำให้ได้มากที่สุด เปิดสายการบินที่ได้ทำการหยุดบินที่ประเทศจีนให้กลับเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ลดความแออัดของสนามบิน และเพิ่มความเข้มงวดเรื่องปลอดภัยมากขึ้น” นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์กล่าวว่า รวมถึงจะมีการนำมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (ฟรีวีซ่า) สำหรับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ซึ่งเป็น 2 ตลาดใหญ่ เข้าเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสคลายตัวมากขึ้นแล้ว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 รวมถึงได้เสนอที่ประชุมครม.ในเรื่องการจัดพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษในช่วงกลางคืน เพื่อให้สามารถเปิดได้ถึงเวลา 04.00 น. โดยเบื้องต้นจะเป็นการให้สิทธิ์เปิดถึงช่วงเวลาดังกล่าวในบางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และจะต้องมีการทำประชาวิจารณ์ พร้อมกับทำการสำรวจจากผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวว่าเห็นด้วยหรือไม่ต่อไป นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปในช่วงครึ่งปีแรก 50% หรือจำนวนกว่า 10 ล้านคน ให้กลับมาท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้จำนวน 30 ล้านคน โดยขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันสนับสนุนให้มากที่สุด

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กรณีเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำชนกลางร่องน้ำใกล้ท่าเทียบเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่า ต.เกาะแก้ว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสียชีวิต 2 ราย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากผู้ขับขี่เรือสปีดโบ๊ทหลับใน ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น จึงเน้นย้ำให้ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้มงวดกับผู้ขับขี่เรือให้มากยิ่งขึ้น โดยผู้ขับขี่เรือต้องมีการทดสอบทักษะต่างๆ เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด