เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา เกียกกาย ในประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาเสนอข้อสังเกตุ ความเห็น และข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ในญัตติด่วนเพื่ออภิปรายถอดบทเรียนความรุนแรง จากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามที่ส.ส.ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน อาทิ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และคณะร่วมกันเสนอ รวม 4 ญัตติ เพื่อถอดบทเรียนไปยังรัฐบาล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการศึกษาหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงซ้ำขึ้นอีก

ช่วงหนึ่งส.ส.ต่างตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการค่ายทหาร เนื่องจากกรณีดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า คนร้ายซึ่งเป็นทหารได้มีการนำอาวุธสงคราม พร้อมพาหนะโดยเป็นรถฮัมวี่ออกไปจากค่ายทหารโดยง่าย ทั้งๆก่อเหตุยิงพลทหารที่รักษาการอยู่ที่คลังอาวุธ จากนั้นยังได้ไปก่อเหตุในวัดป่าศรัทธารวม โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามออกมาเพื่อระงับเหตุเบื้องต้น จนกระทั่งบานปลายนำไปสู่การก่อเหตุที่ห้างเทอมินอล 21 ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองโดยอยู่ห่างจากต้นเหตุ 21 กิโลเมตร สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า การงับเหตุเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก อีกทั้งยังเสนอให้กองทัพเข้มงวดการรับบุคคลเข้ามาเป็นทหารเกณฑ์ให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะบุคคลวิกลจริต เพราะถือเป็นอันตรายมาก หากอาวุธสงครามอยู่ในมือผู้ป่วยประเภทนี้ อีกทั้งควรตรวจสุขภาพจิตเจ้าหน้าที่ที่มีใบอนุญาติใหพกพาอาวุธ ทั้งตำรวจ และทหารเพื่อคัดครองคนในการใช้อาวุธ รวมไปถึงแนวทางในการปฏิรูปกองทัพ โดยสนับสนุนให้พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เร่งรัดการปฏิรูปกองทัพ สะสร้างปัญหาภายในตามที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ อาทิ ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบระหว่างทหารชั้นผู้ใหญ่ กับชั้นผู้น้อย การจัดเก็บอาวุธ ที่ดินทหาร รวมไปถึงการย้ายค่ายหทารออกจากไปเขตเมือง เป็นต้น