‘วราวุธ’ เผย ‘กรมป่าไม้’ จ่อฟ้อง ‘ปารีณา’ ภายใน 1-2 วัน ย้ำทำตามกฎหมาย-ต้องรอบคอบ ยันไม่ได้ยื้อ

ที่วิสาหกิจชุมชนชีวิวิถีตำบลน้ำเกี๋ยน จ.น่าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สรุปความเห็นปมที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีความเห็นว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ป่าว่า วันนี้ป่าไม้และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าไปดูในพื้นที่เรื่องการทำประโยชน์ในพื้นที่แปลงดังกล่าว ภายใน 1-2 วันนี้ถ้าได้ข้อสรุปว่าเป็นพื้นที่ใช้สอยอย่างไรเท่าไหร่แล้วก็จะดำเนินการแจ้งความและดำเนินการตามกฏหมาย โดยเมื่อกฤษฎีกาตอบมา จึงทราบแล้วว่าหน่วยงานไหนจะต้องดำเนินการ เพราะในส่วนของกรมป่าไม้ เรามีทั้ง พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ที่จะแจ้งดำเนินการ ในส่วนของ ส.ป.ก.ก็เป็นเรื่อง ส.ป.ก.ไปดำเนินการต่อไป

“เมื่อเราได้คำตอบรับจากกฤษฎีกามาแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ภายใน 1-2 วัน จะไปดำเนินการแจ้งความตามกฎหมาย โดยเป็นหน้าที่กรมป่าไม้ เรื่องที่ดินคุณปารีณา ผมไม่มีความกังวลใดๆ ถ้าวัดตรงไหนออกมาเกิน ก็ฟ้องแจ้งความตามปกติ ยืนยันไม่ได้ละเว้น หรือละเลยต่อหน้าที่” นายวราวุธกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ปารีณาเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคร่วมเกรงว่าจะมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า “นี่คือการทำงานตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างไรผลออกมาอย่างไรก็ต้องดำเนินการตามนั้น ตนไม่ได้เป็นคนไปสั่ง แต่เราดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ คุณปารีณาจะชี้แจงอย่างไรก็เป็นสิทธิของคุณปารีณาที่จะออกมาชี้แจง ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ”

เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.คนอื่นที่รุกที่ป่าจะดำเนินการอย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า ถ้าจะให้กรมป่าไม้ไปไล่สืบทั้งหมด คงไม่ใช้ที่ เพราะได้มีหน้าที่ไปสอบ ถ้ามีใครไปร้องเรียนก็ว่ากันไป กรณีของคุณปารีณา เมื่อมีคนร้องเรียนก็ว่ากันไป ขอย้ำว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้เร่งไม่ได้ดึง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ

นอกจากนี้ นายวราวุธยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ พร้อมคณะนายกรัฐมนตรีเพื่อให้สิทธิที่ทำกินแก่ประชาชน ว่า เป็นการให้สิทธิชาวบ้านได้ทำมาหากินบนพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ป่า เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านไม่มีที่ทำกินแนวทางของ คทช. จึงให้สิทธิชาวบ้านที่จะทำกินในแปลงของพื้นที่ป่า มีสิทธิเพียงทำกินหาประโยชน์แปลงทำกินนั้น แต่ไม่ใช่ได้สิทธิในกรรมสิทธิ์ สามารถขายให้นายทุนตกทอดผู้สืบสันดานลูกหลานได้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดำเนินการโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน โดยทำด้วยความรอบคอบที่ป่าโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำ 1, 2 เป็นสิ่งที่ต้องอนุรักษ์และหวงแหนเพราะเป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสาย นอกจากทำให้เร็วและต้องรอบคอบด้วย