ส.ส.โคราช แห่หารือ จ่าคลั่งกราดยิงชาวโคราช ถามหาความรับผิดชอบ –มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จี้ “บิ๊กตู่” สังคยนากองทัพ ให้เป็นที่พึ่งของ ปชช.และตรวจสอบได้

วันที่ 12 ก.พ.เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาต่างๆโดย นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ขอหารือถึงกรณีกราดยิงที่โคราช ที่จ่าคลั่งก่อเหตุสะเทือนขวัญจนมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 30 คน และบาดเจ็บหลายราย ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โดยถูกเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรมว่า

ในฐานะผู้แทนราษฎร เขต 5 จ.นครราชสีมา ขอเป็นตัวแทนเพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางจิตใจ หรือโอกาสในการทำมาค้าขายจากโศกนาฏกรรมกลางเมืองโคราช อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ร่วมกันยับยั้งเหตุการณ์ดังกล่าว

และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกมาตรการเพื่อเยี่ยวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดอย่างทั่วถึง เป็นธรรมอย่างเหมาะสม และที่สำคัญต้องตรวจสอบและมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้ โศกนาฎกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นอีก กรณีนี้ไม่สามารถอ้างได้ว่า เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะรัฐต้องมีมาตรการในการห้ามให้เหตุร้ายยุติลงให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และลดความหวาดระแวงให้กับพี่น้องประชาชนอีกต่อไป

ด้าน นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย หารือว่า ตนอดสงสัยไม่ได้ว่า ที่ผ่านมากองทัพมักพูดอยู่เสมอๆว่า ภารกิจหลักของกองทัพเน้นความมั่นคงของประเทศ แต่ทำไมจ่าคลั่งปืนโหดคนเดียว ถึงปล้นอาวุธได้ง่าย และมากมายขนาดนี้ ถ้ามากัน 30-40 คน ไม่ขนรถถังไปหมดกองทัพเลยหรือ

ที่สำคัญเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไปเยี่ยมให้กำลังใจคนบ้านตนก็โบกไม้โบกมือ ทำมินิฮาร์ท พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลทำดีอยู่แล้วในการรักษาความปลอดภัย ไม่ได้หละหลวม แต่ตนก็สงสัยไม่ได้อีกว่า ถ้าไม่หละหลวมจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยเป็นภารกิจหลักของกองทัพ

แต่กรณีนี้เหตุเกิดจากทหาร กับทหารทำธุรกิจขัดผลประโยชน์ยิงกันเอง ชาวบ้านไม่รู้เรื่องแต่โดนไปด้วย จึงอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นรมว.กลาโหมว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะสังคายนากองทัพ ทำให้กองทัพโปร่งใส เป็นที่พึ่งของประชาชน และที่สำคัญเป็นกองทัพที่ตรวจสอบได้

ขณะที่ นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย หารือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะเทือนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกระทำของคนที่เราหวังว่าจะปกป้องประชาชน กรณีนี้ทำให้รู้ว่าเกิดจากความผิดพลาด บกพร่อง ของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ตนเชื่อว่าทหารสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ แต่ก็ยังปล่อยให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

จึงอยากให้ รมว.กลาโหม และรัฐบาล รับผิดชอบด้วยหัวใจ ขอให้นึกถึงความเสียหายของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ระบบการเรียนการสอนของทหารนั้น ทำไมจึงทำให้คนโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จึงจำเป็นต้องมีการทบทวนหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม อาวุธนั้นมีไว้สำหรับต่อสู้กับศัตรู หรือว่าท่านเห็นประชาชนเป็นศัตรูของท่าน

ส่วนนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา หารือว่า จากเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนอยากขอความกรุณาจาก ส.ส.ทุกคนช่วยสนับสนุนญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อนำเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นมาพูดกันในสภาฯ แม้เหตุการณ์ต่างๆจะจบลงแล้ว แต่หลังจากเหตุการณ์ ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมหาทางไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะคนโคราชต่างอยู่ในเหตุการณ์ที่โศกเศร้า ขวัญผวา ที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เศรษฐกิจ และพี่น้องประชาชน ถามถึงเหตุผลต่างๆที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย หารือว่า ตนเรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้จัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ นักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังจากที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ทหารคลั่งกราดยิงประชาชน

เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นพบว่า ประชาชน และนักท่องเที่ยวหวาดผวา และหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ทั้งนี้ตนมองว่ากระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ควรหามาตรการช่วยผู้ประกอบการที่ประกอบการค้าในห้างสรรพสินค้าและตัวเมือง ผ่านการหาแหล่งเงินทุนช่วยเหลือ รวมถึงยืดเวลายื่นงบดุลประจำปี 2562 ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวต่อเนื่อง 1 ปี และกระทรวงการคลัง ควรหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนด้วย