‘ปิยบุตร’ ชี้ ถ้า รบ.มีวินัยมาครบ วันเดียวก็ผ่านได้ ยัน ฝ่ายค้านประคับประคององค์ประชุมมาตลอด

เมื่อเวันที่ 11 กุมภาพันธ์​ ที่รัฐสภา เกียกกาย นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในวาระสองและสามใหม่ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าพรรคเตรียมจะหารือถึงแนวทางในการพิจารณาอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าการอภิปรายในครั้งนี้จะกล่าวหาฝ่ายค้านว่ามีเจตนาถ่วงเวลาไม่ได้ เพราะในข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายประคับประคององค์ประชุมสภามาตลอด ทุกครั้งก่อนลงมติในแต่ละมาตราของร่างกฎหมายงบประมาณจะต้องมีการนับองค์ประชุมก่อนทุกครั้ง หากวิปรัฐบาลพบว่า มีแนวโน้มว่าองค์ประชุมจะไม่ครบก็จะส่งสัญญาณให้ฝ่ายค้านอภิปรายนานขึ้น เพื่อรอให้ครบองค์ประชุม แต่พอร่างกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาเพราะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรแทนกันและต้องนำมาพิจารณากันใหม่ กลับมาบอกว่าฝ่ายค้านไม่ควรใช้เวลาอภิปรายนาน ดังนั้น หาก ส.ส.รัฐบาลกว่า 250 คน มีวินัยจริงๆ ก็ต้องมาให้ครบ ใช้เวลาไม่นานก็โหวตผ่านสภาได้แล้ว

นายปิยบุตรกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา เนื่องจากกรณีนี้เป็นคำร้องเพื่อขอให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเท่านั้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นได้สองทางคือ 1.หากเห็นว่ากระบวนการตราชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายฉบับนั้นก็มีผลบังคับใช้ต่อไป หรือ 2.หากเห็นว่ากระบวนการตราไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณต้องตกไปทั้งหมดเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการตราชอบด้วยกฎหมายแต่กลับให้ไปลงคะแนนในวาระที่สองและสามใหม่ผ่านการอาศัยอำนาจการออกคำบังคับตามมาตรา 74 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจจะดำเนินการเช่นนั้น ถือว่าเป็นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินอำนาจที่มี อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร จึงจำเป็นต้องตีขอบอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้ชัด เพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นรัฐธรรมนูญเสียเองและเป็นผู้บังคับบัญชา ส.ส.