“บิ๊กตู่”ตั้งบอร์ดอีวีแห่งชาติ ดันไทยฮับอาเซียน หวั่นช้าเสียแชมป์เพื่อนบ้านแซงหน้าแน่

“บิ๊กตู่”เซ็นตั้งคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้า “สุริยะ”มั่นใจดันไทยฮับผลิตรถอีวีอาเซียน หวั่นช้าเสียแชมป์เพื่อนบ้านแซงหน้าแน่ หลังเวียดนาม อินโด มาเลฯจ่อเสียบ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ จำนวน 19 ราย มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน ที่เหลือเป็นกรรมการ อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงพลังงาน เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ

นายสุริยะ กล่าวว่า คณะกรรมการฯมีหน้าที่ กำหนดทิศทาง และเป้าหมาย รวมทั้งบูรณาการ และติดตามประเมินผลการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นไปตามแผนงานและกรอบแนวทางที่กำหนด ให้คำแนะนำ และข้อเสนอแนะ เพื่อให้นโยบายการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า เกิดผลทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยคณะกรรมการชุดนี้มาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการผลิต การลงทุน สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อจูงใจ ด้านการทำตลาด เรื่องสถานีปั๊มชาร์จต่างๆ เมื่อทำให้ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ราคาถูกลง มั่นใจว่าประชาชนจะหันมาใช้มากขึ้นแน่นอน

นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่า การดำเนินงานมาตรการสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่มาก โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (บีอีวี) อาทิ รถยนต์สาธารณะไฟฟ้า และรถยนต์ส่วนบุคคล มีราคาสูงเกินไป ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมไปถึงการเตรียมการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่า การตั้งคณะกรรมการฯ จะช่วยทุกหน่วยงานทำงานร่วมกันผลักดันขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นไปตามเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน ซึ่งจะได้ทั้งในมุมเศรษฐกิจ และทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5

“การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เป็นผลมาจากกระทรวงอุตฯ ได้ร่วมหารือร่วมกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์หลายสมาคมฯที่เกี่ยวข้องเห็นตรงกันว่า ไทยควรเร่งจัดตั้งคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติขึ้นมา เพื่อบูรณาการทำร่วมกันทุกหน่วยงาน ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) จึงได้ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันในเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะหากขับเคลื่อนเช้า อาจส่งผลให้ไทยเสียแชมป์การเป็นหนึ่งในศูนย์กลางผลิตรถยนต์ของโลกได้ ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และประเทศเพื่อนบ้านของไทย กำลังเร่งทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทยจึงรอช้าไม่ได้ ต้องร่วมมือกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้ไทยแจ้งเกิดเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนให้เร็วที่สุด”นายสุริยะกล่าว

 

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่า ประธานคณะกรรมการฯ คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการฯ และน่าจะเรียกประชุมภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอแนวทางขับเคลื่อน และรับนโยบายใหม่ไปเร่งทำงาน

รายงานข่าว ระบุว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า หนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ มาตรการสำคัญ อาทิ มาตรการส่งเสริมการลงทุน มาตรการกระตุ้นตลาดภายในประเทศ มาตรการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการจัดทำมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ การพัฒนาบุคลากร มีผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนภายใต้นโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ของบีโอไอ อาทิ กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (เอชอีวี) 4 ราย กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) 8 ราย และกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (บีอีวี) 14 ราย สนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมกว่า 80 หัวจ่าย และออกประกาศมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว 11 ฉบับ