วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม แถลงข่าวถึงกรณีเหตุสลดทหารยศจ่าสิบเอกใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนจนมีผู้เสียชีวิต 30 ราย และบาดเจ็บหลายราย ก่อนที่จะขับรถฮัมวี่ ออกมายังใจกลางเมืองนครราชสีมา จนมาถึงห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 แล้วใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนบริเวณดังกล่าว จนได้รับเจ็บอีกจำนวนมาก

โดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เดินทางถึงเพื่อฟังการสรุปปฏิบัติการยับยั้งเหตุกราดยิงร่วมกับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง และได้ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน ได้แถลงโดยระบุว่า

เราต้องร่วมมือและเผชิญสถานการณ์ไปด้วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน ยืนยันรัฐบาลดูแลประชาชนทุกคน และดูแลแก้ไขทุกปัญหา อย่างเรื่องเศรษฐกิจผมก็รับฟังผู้ที่ติติง แต่อยากให้ดูว่า 5 ปีทำอะไรมาแล้วบ้างแล้ว คงมีโอกาสพูดกันในสภา ผมไม่มีปัญหาก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ที่สำคัญขอร้องไม่อยากให้ประชาชนถูกแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่าย อย่าให้ใครมาบิดเบือน ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าผมดูแลคนทุกๆ ฝ่ายงบประมาณก็ลงไปช่วยเหลือในทุกๆ จังหวัด

อย่างไรก็ตาม แถลงข่าวดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงวุฒิภาวะในยามวิกฤต ท่วงทำนองในการสื่อสารในช่วงการแถลงข่าวที่ดูเป็นการหาเสียงทางการเมืองแทนที่จะพูดในสาระสำคัญต่อเหตุอันน่าสลดที่ประชาชนต่างติดตามและรอคอย ส่งผลให้ แฮชแท็ก #ผนงรจตกม ซึ่งมีผู้แปลความหมายของตัวย่อดังกล่าวว่า “ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด” ขึ้นอันดับ 1 ของทวิตเตอร์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านี้ โซเซียลมีเดียยังได้วิพากษ์วิจารณ์หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำท่าประจำตัว “มินิฮาร์ท” หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก จากนักการเมือง และประชาชนทั่วไป อาทิ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Pichailive ว่า “หมดภาวะผู้นำ ! ได้ฟังพลเอกประยุทธ์พูดตอนไปโคราชหลังวิสามัญทหารผู้ก่อคดีแล้ว อดไม่ได้ต้องคิดว่าทำไมไทยถึงมีผู้นำแบบนี้ คงเข้าใจผิดคิดว่าลงไปหาเสียง ถึงขนาดมีถามฝูงชน ทั้งที่พวกเขาเพิ่งผ่านเรื่องช็อกมา ในภาวะวิกฤตหลายหน พิสูจน์แล้วว่าภาวะผู้นำมีปัญหาจริงๆ”

นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า “ลุงแถวบ้าน ไปโคราชตอนจนท.เขาแก้ไขสถานการณ์แล้ว ลุงแค่ไปเอาหน้า ไปยิ้มแป้นโบกไม้โบกมือทักทายประหนึ่งเป็นฮีโร่ ทั้งๆ ที่ลุงหลับสบายทั้งคืน ในค่ายทหารลุงไม่ได้ทำอะไรเลย แถมไร้วุฒิภาวะ ยังหน้าทะเล้นทำท่ามินิฮาร์ท ให้คนที่กำลังสลดเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า พฤติการณ์ทั้งหมดเป็นการก่อการร้าย แม้จะเป็นทหารคลั่งเพียงคนเดียว แก้แค้นเสร็จแล้ว ทำไมต้องปล้นปืนทำไมต้องทำร้ายผู้บริสุทธิ์แรงจูงใจคืออะไร ใครต้องรับผิดชอบ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ @JHoungsub “ท่านนายกควรสำรวมและไว้อาลัยให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต..มากกว่า ส่งฮาร์ทบีท เช่นนี้ครับ”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทวิตข้อความทางทวิตเตอร์ @jamornvivat “จากเหตุกราดยิงที่โคราช ขณะนี้เหตุการณ์สิ้นสุด ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก ขั้นต่อไปคือการเยียวยาและการบำบัดต่อผู้ประสบเหตุทุกคนทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะผู้อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น และยังต้องมีการเตรียมความพร้อมและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทวิตข้อความ ทางทวิตเตอร์ @wirojlak ว่า “นายกฯ ควรจะตอบคำถามให้สำรวมกว่านี้จริงๆ นะครับ ด้วยความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวง ความเศร้าโศกอาดูร จากการมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ผมขออนุญาตแนะนำว่า ท่านนายกฯ ควรสำรวมคำพูด และท่าที ระหว่างการให้สัมภาษณ์ให้มากกว่านี้นะครับ การวิสามัญคนร้าย

ไม่ควรเป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้แค่นี้ สิ่งที่ควรทำต่อจากนี้ คือ ‘การปฏิรูปทหาร’ ที่ทำให้กระบวนการสิทธิมนุษยชน นั้นเข้าถึงเจตคติของทหาร และเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนกระบวนการที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา และการควบคุมอาวุธที่รัดกุมขึ้น”

จากนั้น แฮชแท็ก #ผนงรจตกม ซึ่งมีผู้แปลความหมายของตัวย่อดังกล่าวว่า “ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด” ขึ้นอันดับ 1 ของทวิตเตอร์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง และในเวลาต่อมา แฮชแท็ก #RIPPrayuth ขึ้นอันดับ 1 ตามมาติดๆ ในเวลาต่อมา