ด่วน! มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 สั่งโหวตวาระ 2-3 ใหม่ พ.ร.บ.งบประมาณ 63

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมศาลรัฐธรรมนูญ มีวาระพิจารณาวินิจฉัย พร้อมนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ กรณีคำร้อง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สังกัดรัฐบาล 90 คน กรณีการเสียบบัตรลงคะแนนแทน นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และ นายสมบูรณ์ ชารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือไม่

อันเป็นผลมาจาก มี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน และมีการเสียบบัตรค้างไว้ ในเครื่องลงมติอัตโนมัติ ในระหว่างลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระ 2 และ 3 โดยคำร้องหลักมาจาก ส.ส. รัฐบาล 90 คน นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใน 3 ประเด็น ดังนี้

1.กระบวนการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ขัดหรือแย้งกับหลักการการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 หรือไม่

2.หากมีปัญหา จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ตกไปทั้งฉบับ หรือเฉพาะมาตราที่มีปัญหา และกรณีนี้จะถือว่าสภาพิจารณาร่างกฎหมายนี้ไม่เสร็จภายใน 105 วัน ตามมาตรา 143 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญหรือไม่

3.จะดำเนินการในแต่ละกรณีต่อไปอย่างไร

เป็นการใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมสภา พ.ศ. 2562 ข้อ 139 ที่เปิดทางให้สมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสองสภา หรือ 75 จาก 750 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นร่างกฎหมายที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายใน 3 วันหลังวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (7 ก.พ. 2563) ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุม และลงมติ 5 ต่อ 4 ว่า กระบวนการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ขัดหรือแย้งกับหลักการการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 120

ดังนั้นให้มีการลงมติใหม่ ในวาระ 2 และ 3