สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก ยอมรับว่า ทางธนาคารกำลังเตรียมปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกประจำปีนี้ลง จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจโลกจะกลับมาขยายตัวในปีนี้ระหว่าง 2.4-2.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้สืบเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิตทั่วโลกอย่างหนัก เนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ส่งผลให้มีการปิดพรมแดน ปิดการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ

นายมัลพาสส์ระบุว่า จำเป็นต้องมีการปรับลดประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจโลกดังกล่าวลงอย่างน้อยก็ในช่วงแรกของปีนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนพร้อมๆ กันนั้นก็ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานพร้อมกันไปด้วย โดยตั้งข้อสังเกตว่า สินค้าจากจีนเป็นจำนวนมากเดินทางไปสู่ประเทศอื่นๆที่เหลือด้วยเครื่องบินลำเดียวกันกับที่นำผู้โดยสารออกมา เมื่อมีการระงับเที่ยวบินไปและกลับจากจีน ก็ทำให้ธุรกิจทั้งหลายต้องปรับห่วงโซอุปทานสำหรับการผลิตของตนใหม่หมด เพื่อให้ได้สินค้าที่ต้องใช้เพื่อการผลิต ซึ่งเป็นวิธีการดำเนินการของเศรษฐกิจทั้งโลก

ทั้งนี้นายมัลพาสส์มีความเห็นตรงกับทัศนะของนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานกองทุนสำรองแห่งรัฐ (เฟด) หรือธนาคารกลางของสหรัฐ ที่เชื่อว่าไวรัสที่ระบาดครั้งนี้จะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง โดยนางเยลเลนเชื่้อว่า การระบาดจะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างมีนัยสำคัญอย่างน้อยก็ 1-2 ไตรมาส ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจโลกแน่นอน