กรมการค้าภายใน สั่งห้างร้านจำกัดการซื้อหน้ากากอนามัย ได้เพียง 10 ชิ้น/คน

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ 14 แห่ง เช่น แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน และซีพี ถึงสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ภายหลังจากที่สินค้าดังกล่าวเข้าเป็นสินค้าควบคุมแล้ว ว่า กรมการค้าภายในขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้านำสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการ และขอให้มีการจำกัดการซื้อ 10 ชิ้นต่อคน เพื่อให้สินค้ากระจายได้ทั่วถึงมากขึ้น และป้องกันปัญหาคนซื้อปริมาณเยอะเกินความจำเป็น โดยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังออกมาตรการดูแลปริมาณและสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ โดยให้ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้ค้า ตัวแทนจำหน่าย รายงานปริมาณสินค้าในสต๊อก ปริมาณการนำเข้า ปริมาณการขาย ราคาซื้อ-ขายที่ผ่าน โดยกำหนดให้รายงานเข้ามาภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ ซึ่งขณะนี้ พบว่าประชาชน ผู้บริโภค ร้องเรียนมาที่กรมการค้าภายในกว่า 1,022 ราย ถึงปัญหาราคาสินค้าดังกล่าวขาดตลาด หาซื้อไม่ได้ รวมไปถึงการจำหน่ายราคาที่สูงไป ล่าสุด กรมการค้าภายในได้จัดศูนย์เคลื่อนที่เร็ว 10 สายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตรวจสอบปัญหาดังกล่าว หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายทันที โดยโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดได้มีการมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในการติดตามดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

“กรมการค้าภายในยังจะจัดศูนย์บริการจัดสรรที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเชื่อมโยงสินค้าไปกระจายและขายในราคายุติธรรมให้กับพื้นที่ที่จำเป็นก่อน เช่น โรงพยาบาล หน่วยให้บริการการท่องเที่ยว ชุมชน ผู้ป่วยที่มีความจำเป็น และกรมฯจะอาศัยร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นจุดกระจายสินค้าให้ทั่วถึงด้วย ส่วนการจัดสรร กระจายไปนั้น ผู้ผลิตแต่ละรายปริมาณเท่าใดนั้น จะพิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งการผลิต และคำสั่งซื้อ ก่อนที่จะจัดสรรต่อไป”

ส่วนมาตรการการการส่งออก เบื้องต้นกำหนดให้ผู้ส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป จำเป็นจะต้องขออนุญาตการส่งออกจากกรมการค้าภายใน โดยกรมฯจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสินค้า เอกสารก่อนการส่งออก หากพบจะระงับการส่งออกทันที แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้วก็ตาม เพราะกรมฯให้ความสำคัญกับการใช้ในประเทศเป็นอันดับแรก สำหรับปริมาณการส่งออกปี 2561 ส่งออก 71 ล้านชิ้น ปี 2562 ส่งออก 220 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นกว่า 200% ซึ่งปริมาณสูงมาก ส่งออกส่วนใหญ่ไปจีน ไต้หวั่น ฮ่องกง และญี่ปุ่น ขณะที่ความต้องการใช้ภายในก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากคนเริ่มหันมาดูแลตัวเองจากปัญหาฝุ่น PM 2.5