เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมชาวบ้านริมคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร เขตสายไหม บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ลาดพร้าว จตุจักร วังทองหลาง และห้วยขวาง กทม.กว่า 300 คน เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากกรมธนารักษ์นำที่ดินริมคลองลาดพร้าว เปรมประชากร มาแสวงหาผลประโยชน์โดยให้ประชาชนเช่า ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่ราชพัสดุ โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 2096/2562 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 วินิจฉัยว่า คลองลาดพร้าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่เป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน” ตาม มาตรา 1304(2) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่ได้เป็นที่ราชพัสดุตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ แต่อย่างใด

“แต่ปรากฏว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้ถืออภิสิทธิ์ในการเข้ายึดถือและจัดหาประโยชน์ในที่ดินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์สําหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกันในคลองลาดพร้าว คลองสอง และหรือคลองเปรมประชากร โดยการเรียกหรือบังคับให้ประชาชน หรือกลุ่มประชาชนหรือชุมชนในนามสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงต่างๆ ทำหนังสือสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ อ้างว่าเป็นที่ราชพัสดุ ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ต้องทำนิติกรรมหรือสัญญาเช่าที่ดินระยะเวลาการเช่าประมาณ 30 ปี โดยจ่ายค่าเช่าตารางวาละ 1.5 บาทต่อเดือน และจะปรับปรุงค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ของค่าเช่าเดิมทุก 5 ปี ซึ่งการดำเนินการเป็นผลมาจากนโยบายก่อสร้างบ้านมั่นคงหรือบ้านประชารัฐริมคลองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมฯและชาวบ้านริมคลองในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงเดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา28 และ มาตรา 30 วรรคแรก เพื่อไต่สวนและเอาผิดอธิบดีกรมธนารักษ์ และพลเอกประยุทธ์ กรณีนำที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินจัดหาผลประโยชน์โดยการให้เช่าพร้อมเรียกรับค่าเช่า