เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย (กศพ.) ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน ได้ประชุมเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

โดยร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจและแสดงความห่วงใยจากภัยพิบัติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านของเรา และที่เกิดในเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเราห่วงใยไม่น้อยไปกว่า รัฐบาลไม่กระตือรือร้น ไม่เอาใจใส่ ทำงานไม่เป็น เอารมว.พลังงานมาเดินแจกมาส์ก แต่ไม่ได้แจกในนามรัฐบาล เป็นการแจกในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แปลว่ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าพรรคพท.เป็นรัฐบาล เราจะให้นักวิชาการแสดงความเห็นผ่านทางโทรทัศน์

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า นายวิษณุ เครืองงาม รองนายกฯ กรุณาหุบปากเสียบ้าง พวกตนอ่านกฎหมายเป็น เรื่องมาตรา 143 ท่านออกมาพูดเร็วเกินไป เพราะเรื่องนี้ใช้ในกรณีปกติ แต่เรื่องนี้คุณเสียบบัตรแทนกัน เรียกทุจริต อยากให้สื่อช่วยตรวจสอบรัฐบาล เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลสีเทา รัฐมนตรีบุกรุกป่าเงียบ ส.ส.บุกรุกที่ดินเงียบ แต่พอฝ่ายค้านทำอะไรบ้างเอาตาย ตามจี้ หายใจดังยังไม่ได้ รัฐบาลไม่มีหลักเกณฑ์ วันนี้พี่น้องประชาชนส่งข้อมูลมามากมายก่ายกอง เพราะเขาเกลียดรัฐบาลนี้ นายวิษณุสะกิดหลังพล.อ.ประยุทธ์หน่อยว่าหมดยุคมาตรา 44 ต้องเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยเต็มตัวแล้ว ไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งๆกลางๆที่เลือกตั้งมาทีไรก็ได้แต่ประยุทธ์

“พล.อ.ประยุทธ์อย่ามาโกรธพรรคเพื่อไทย พวกเราเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่พวกสอพลอคุณ อย่ามาดุพวกตนแบบที่ดุนักข่าว เพราะถ้าดุมาก็สวนไป พวกตนไม่ใช่ทหารเกณฑ์ในบ้านคุณ พูดกันด้วยหลักฐาน ตรงไปตรงมา ถ้าฟ้าดินมีจริง หลังการอภิปรายขอให้รัฐบาลชุดนี้หายนะ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ขอให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ แล้วไม่ต้องให้ทนายหน้าหอ พวกม้าไม่มีชั้นออกมาพูดว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูล ก็ถ้าไม่มีข้อมูลจะยื่นญัตติอภิปรายได้อย่างไร”

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าที่เลื่อนการยื่นญัตติเพราะยังมีการล็อบบี้ไม่ให้อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้มีการล็อบบี้ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ไม่มีข้อมูลว่าจะอภิปราย ถ้าพรรคอื่นมีข้อมูล และขอใส่ชื่อก็เอา แต่เรากลัวเสียฟอร์มว่าถ้าไม่มีข้อมูลอะไรแล้วไปพูดในสภาฯ ก็จะโดนด่าอีก

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ฐานะรองประธาน กพศ. กล่าวถึงกรอบเวลาที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เราจะเรียกประชุมหัวหน้าพรรคทั้ง 7 พรรคในวันที่ 29 ม.ค.อีกครั้ง แล้วจะตัดสินใจยื่นในช่วงวันที่ 29-31 ม.ค. เพราะรอดูเรื่องการสรุปตัวบุคคล ขณะนี้เรามีความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์คือศูนย์กลางของปัญหา ซึ่งหากหาข้อสรุปได้ในวันที่ 31 ม.ค.ก็ยังถือว่าอยู่ในไทม์ไลน์ที่เรากำหนดอยู่ ขณะที่ตัวบุคคลที่จะถูกอภิปรายก็ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะกี่คน เนื่องจากวันนี้เราได้วางกรอบและแต่ละพรรคก็จะไปประชุมเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งมีทั้งที่เหมือนและซ้ำกัน แต่ยืนยันว่าที่ยังไม่ได้ยื่นญัตติเพราะไม่ได้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการเสียบบัตรแทนกันแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กพศ.ได้มีการเปิดตัวฟังก์ชั่นในเว็ปไซต์พรรค พท. Specialmissionptp.com ซึ่งจะแยกส่วนออกมาเป็นการทำงานของ กพศ.พท. และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างในพรรคและประชาชน