อาจารย์รัฐศาสตร์ข้องใจ โพสต์ถาม รบ.จะให้คนไทยในอู่ฮั่นกลับพร้อมเรือดำน้ำหรือไม่

ภาพจากอินสตาแกรม-Evgenia-Zibrova

อาจารย์รัฐศาสตร์ข้องใจ โพสต์ถาม รบ.จะให้คนไทยในอู่ฮั่นกลับพร้อมเรือดำน้ำหรือไม่

เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการประจำสาขาวิชาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า อ้าวเฮ้ยยย !!! แล้วคนไทย เด็กไทย ที่ติดค้างอยู่ละ รอให้กลับพร้อมเรือดำน้ำป่าว พร้อมแชร์โพสต์ของ Wassana Nanuam 20 ทหารเรือ ทีมเรือดำน้ำ ดอดเงียบ จาก Wuhan กลับถึงไทย แล้ว….

เข้ารับการตรวจร่างกาย ยันไม่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส… รอ พร้อมเดินทางกลับ เผยปรับแผนต่อเรือดำน้ำ ตามเหตุสุดวิสัย เชื่อไม่กระทบแผนเรือดำน้ำลำแรก

คณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำกลับถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัยแล้วทุกคน เผยเหตุที่ไม่เปิดเผยก่อนเพราะไม่อยากให้ตื่นตระหนก หรือเป็นเหตุที่อาจนำไปสร้างความสับสนในสังคม โดยทุกคนเข้ารายงานตัวต้นสังกัดและได้รับการตรวจดูแลสุขภาพจากกรมแพทย์ทหารเรือแล้ว ทุกคนมีสภาพร่างกายแข็งแรง และปลอดภัยดี ไม่ติดเชื้อโรคโคโรนาไวรัส

พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ ได้แถลงข่าวเรื่องการเดินทางกลับของคณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำ 20 นาย ที่ปฏิบัติราชการอยู่ ณ เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน อันเป็นแหล่งต้นเหตุเกิดการระบาดใหญ่ของไข้หวัดสายพันธ์ุใหม่ ว่าคณะกรรมการทั้งหมดได้ทยอยเดินทางกลับไทยครบหมดแล้วด้วยเครื่องบินพลเรือนตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.63 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และปลอดภัยดี ปราศจากการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศจีน

คณะกรรมการจะเดินทางกลับไปทำงานที่เมืองอู่ฮั่นต่อไปเมื่อได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชา โดยระหว่างนี้ได้เข้ารายงานตัวต้นสังกัดและตรวจสุขภาพโดยต่อเนื่องที่กรมแพทย์ทหารเรือ

ในส่วนงานตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำที่กำลังดำเนินการร่วมกับบริษัทอู่เรือคู่สัญญานั้น ทั้งสองฝ่ายก็ต้องมีการปรับแผนงานกันไปตามเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น

แต่ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบกับแผนงานก่อสร้างโดยรวม ตลอดจนกำหนดการส่งมอบเรือ

สำหรับการที่ ทร.ไม่ได้นำเสนอข่าวการอนุญาตให้คณะกรรมการตรวจการจ้างทั้ง 20 คน ทยอยเดินทางกลับมาประเทศไทยอย่างแพร่หลาย เป็นเพราะคณะกรรมการได้มีการประสานงานเตรียมการปฏิบัติต่อสถานการณ์แพร่ระบาดนี้ ระหว่างสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย ประจำกรุงปักกิ่ง กรมข่าวทหารเรือ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาโดยใกล้ชิด

โดย ทร.มีนโยบายไม่ต้องการนำเสนอข่าวให้สังคมเกิดความตื่นตระหนก หรืออาจนำข่าวไปขยายผลให้เกิดความสับสนในสังคม