วันที่ 28 มกราคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายนิชิมูระ ยาซุโทชิ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ญี่ปุ่น ได้ออกมาเตือนว่า ผลประกอบการเอกชนและผลผลิตอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดจากจีน จนสามารถเขย่าตลาดโลกและบั่นทอนความเชื่อมั่น

รายานระบุว่า ตลาดหุ้นในเอเชีย ขยายการขายออกทั่วโลกเนื่องจากการระบาดของโรคในประเทศจีนซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 106 คนและกระจายไปยังหลายประเทศ จนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

นายนิชิมูระกล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากการแพร่กระจายของการติดเชื้อในประเทศจีน ทั้งหยุดชะงักการขนส่ง การยกเลิกทัวร์กลุ่มจากจีนและการขยายในวันหยุดตรุษจีน หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป เรากังวลว่าจะส่งผลต่อการส่งออก ผลผลิตและผลกำไรของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น จากผลกระทบในการบริโภคและการผลิตของชาวจีน

ตามรายงานสำรวจภาคอุตสาหกรรมเผยว่า จีนเป็นประเทศส่งออกใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นและตลาดใหญ่สุดของค้าปลีกจากญี่ปุ่น โดยภาคการท่องเที่ยว ญี่ปุ่นมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน 30% และใช้จ่ายเกือบ 40% แต่การระบาดอาจส่งผลเชิงลบต่อห้างสรรพสินค้า ค้าปลีกและโรงแรมในญี่ปุ่น

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ ของเอสเอ็มบีซี นิคโคะ ซิคเคียวริตี้ คาดการณ์ว่า หากคำสั่งห้ามของจีนไม่ให้ทัวร์จีนเดินทางไปอีก 6 เดือน อาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไป 0.05% แต่บางคนคาดว่าความเสียหายอาจเลวร้ายกว่านี้

ขณะที่ นายคูมาโนะ ฮิเดโอะ หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยไดอิจิ ไลฟ์ กล่าวว่า การลดลงของการท่องเที่ยวจากจีนจะส่งผลต่อจีดีพีญี่ปุ่นถึง 0.2%

นายฮิเดะโอะกล่าวว่า หากตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงกว่าเพิ่มขึ้น จะส่งผลร้ายต่ออุตสาหกรรมการบริโภคของญี่ปุ่นค่อนข้างใหญ่หลวง