‘วันนอร์’รอฟังคำวินิจฉัย ไม่ดึง-ปล่อยพ.ร.บ.งบฯรวดเดียว รอเคาะวันซักฟอกมั่นใจหลักฐานเพียบ เชื่อรบ.อยู่ลำบาก-ปรับครม.

เมื่อวันที่ 26 มกราคม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ(ปช.)ในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีส.ส.พรรค เสียบบัตรแทนกันโหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงออกมาก่อน แต่ที่ชัดเจนคือ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย(ภท.)ไม่ได้อยู่ในสภาและมีการลงมติหลายมาตรา และนางนาทีได้สารภาพแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผิดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตนเองหรือทิ้งบัตรให้ใครลงคะแนนให้ ในฐานะส.ส.เป็นผู้แทนจากประชาชนคนอื่นจะไปกดแทนไม่ได้ ส่วนข้ออ้างที่เสียบบัตรน้อยจึงให้คนอื่นเสียบบัตรให้ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญเขียนระบุเฉพาะตัวเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ลงคะแนน ไม่ว่ากรณีใดๆ แม้แต่เรื่องขานชื่อก็ต้องขานเอง

“ต้องฟังศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าผลคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร แล้วค่อยหาวิธีการให้พ.ร.บ.งบฯมีโอกาสใช้ให้เร็วที่สุด เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหาทาง หากเป็นวิธีการที่้ถูกต้อง 7 พรรคฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือ อีกทั้ง พ.ร.บ.งบฯได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว เมื่อนำเข้ามาพิจารณาใหม่ก็คงต้องรีบให้ผ่านโดยเร็วที่สุด มีวิธีทำให้สั้นลงได้คงไม่ต้องไปไล่ขั้นตอนกันใหม่ อาจเริ่มขั้นตอนสุดท้ายเลยก็ได้เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน แต่ขอให้เป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามที่้รัฐธรรมนูญกำหนด และเท่าที่คุยกับ 7 พรรคฝ่ายค้านก็อยากให้พ.ร.บ.งบฯผ่านไปโดยเร็วเช่นเดียวกันดังนั้น คงไม่ช้าเกินไปอย่างที่้หลายฝ่ายหวั่นวิตก”หัวหน้าพรรค ปช.กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า 7 หัวหน้าหน้าพรรคฝ่ายค้านจะประชุมในวันที่ 27 มกราคมนี้อีกครั้งเพื่อสรุปรายละเอียดและวันที่ 28 มกราคม คณะกรรมการประสานงานทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจะหารือกันเพื่อยื่นเรื่องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 มกราคม สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะไม่เหมือนการอภิปรายเบาๆที่ไม่ลงมติเหมือนครั้งที่ผ่านมา การอภิปรายมีการลงมติและมีผลต่อสถานะรัฐบาล ฝ่ายค้านจะใช้หลักฐานเป็นหลักในการอภิปราย ใครมีข้อมูลอะไรก็แชร์กัน ประชาชน ข้าราชการก็ส่งข้อมูลมาให้โดยบางเรื่องเป็นข้อมูลมทีร่ีไม่เคยได้ยิน ที่สำคัญเป็นข้อมูลที่มีน้ำหนัก เชื่อว่าหากประชาชนได้รับรู้จะไม่ยอมรับรัฐบาลปัจจุบัน

“แต่ละคนที่จะซักฟอกรัฐบาลเต้มไปด้วยข้อมูล ไม่ใช่ว่าจะอภิปรายเพื่อโชว์ตัวทำให้เสียเวลา ส่วนการลงคะแนนโหวตว่ารัฐบาลจะผ่านไม่ผ่านอย่างไรคงไม่อาจรู้ได้ แต่เสียงของฝ่ายรัฐบาลมีมากอยู่แล้ว เราจึงไม่สนใจว่ารัฐบาลบาลจะโหวตแพ้หรือชนะ แต่ต้องการให้ประชาชนเห็นการตรวจสอบของฝ่ายค้านมีน้ำหนัก หากประชาชนเห็นถึงข้อมูลแล้วรู้สึกว่ารัฐบาลนี้คงไม่เหมาะสมที่จะบริหารประเทศต่อไป ถึงรัฐบาลจะอยู่ต่อก็อยู่ลำบาก เชื่อว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปรับวิธีการทำงานรวมถึงปรับ ครม.”นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว