“การุณ”แนะ “บิ๊กตู่”เสียสละอย่าแกล้งโง่ ย้ำ เป็นชายชาติทหารต้องกล้าเปิดขยะใต้ท็อปบู๊ท ชี้ทุจริตหนักกว่าทุก รบ.

วันที่ 24 มกราคม 2563 นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าจากการที่ตนได้พูดคุยกับทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารงานที่ผิดพลาดและปล่อยให้มีการทุจริตของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี

ตนเองรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับมาวิเคราะห์แล้วบอกได้คำเดียวว่าถึงกับอึ้ง พูดไม่ออกเพราะรัฐบาลลุงตู่ที่บอกว่า ต้องการเข้ามาปราบโกง ดูแล้วถ้าจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว เพราะทีมตรวจสอบพบว่าการทุจริตหนักอาจหนักกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายรัฐบาลรวมกันเสียอีก

นอกจากนี้การการเข้าสู่ตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ทำให้ประเทศไทยต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง เช่น ความบิดเบี้ยวของกฎหมายและองค์กรอิสระ การใช้ภาษีประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้พลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจ คำครหาเรื่องการใช้ฝ่ายความมั่นคงไปข่มขู่ประชาชน การใช้จ่ายงบประมาณเอื้อให้กับพวกพ้อง รวมทั้งเรื่องสำคัญที่สุดก็คือการทุจริตที่ทำอย่างไม่เกรงใจประชาชน ซึ่งประเด็นเหล่านี้เมื่อประชาชนจับได้ พลเอกประยุทธ์ก็จะออกอาการโวยวายทวงบุญคุณก่อนใช้มุขหล่อชี้แจงว่าตนเองไม่เคยอยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยอมลำบากเพราะไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่ความวุ่นวาย ประชาชนแตกแยก เหมือนที่เคยผ่านมา

นายการุณ กล่าวต่อว่า เกือบ6 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ถึงวันนี้ส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติ อย่างหนัก ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก เศรษฐกิจพังพินาศ ตัวเลขคนตกงานจนถึงวันนี้หลายแสนคน คนฆ่าตัวตายรายวัน แต่พลเอกประยุทธ์ ไม่สนใจ เพราะต้องการนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนเป็นสถิติประเทศไทยเท่านั้น ส่วนประชาชนจะเป็นอย่างไรไม่ใช่ประเด็น

“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอธิบายให้ประชาชนได้รู้ความจริงที่พลเอกประยุทธ์ฝังไว้ ใต้ท็อปบู๊ท สิ่งที่พลเอกประยุทธ์คุยว่าทำงานหนักกว่าทุกรัฐบาล แต่พบว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร กลับยิ่งจนลง ตรงข้ามกับนายทุน และคนใกล้ชิดพลเอกประยุทธ์ที่มีคำครหามาตลอดว่าหาประโยชน์จากภาษีประชาชน จนร่ำรวยกันถ้วนหน้า ตนเองไม่มั่นใจว่าพลเอกประยุทธ์ ไม่รู้หรือแกล้งโง่ ว่าวันนี้ประชาชนจนทั้งแผ่นดินจริงๆ ซึ่งตนเองคิดเร็วๆตอนนี้ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ เสียสละตัวเองด้วยการลาออกแล้วให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาฟื้นฟูประเทศ กอบกู้เศรษฐกิจโดยเร็ว ย่อมดีกว่าปล่อยให้พังด้วยมือของพลเอกประยุทธ์และคณะอย่างแน่นอน”