เจอนักข่าวยิงคำถามถล่มยับคาโพเดี้ยม ‘ชัยวุฒิ’ อ้ำอึ้งบอกไม่ได้ลงคะแนนแทน แค่ช่วยเสียบบัตรแทน – ด้าน ‘ประธานชวน’ ชี้ขาด “ผิดแน่ๆ”

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พร้อมด้วย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในคลิปที่ถูกระบุว่า มีการเสียบบัตรแทนกัน โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า วิปพรรคพลังประชารัฐ และวิปรัฐบาล ไม่มีนโยบายให้เสียบบัตรแทนกัน ถ้าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภาฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่องเสียบบัตรลงคะแนนของพรรคพลังประชารัฐมี 68 ช่อง แต่สมาชิกของพรรคมี 117 คน ดังนั้น ช่องเสียบบัตร 1 ช่อง จึงมีการเสียบบัตร 2 – 3 ใบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียวในวันนั้น ที่ผู้ที่มาลงคะแนนวางบัตรไว้แล้วไม่สามารถก้มลงมาเสียบบัตรเองได้ เพราะสถานที่จำกัด และช่องที่กดเล็กมากอาจทำให้กดผิด จึงมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสมาชิกที่นั่งอยู่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะครั้งคราวจริงๆ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ทำกันปกติ แต่เป็นอุบัติเหตุที่เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการลงคะแนน แต่โดยหลักการการลงคะแนนทุกครั้ง สมาชิกต้องดำเนินการด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของส.ส.ทุกคน ส่วนจะถูกต้องตามหลักกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นการตีความของผู้มีอำนาจตัดสินเรื่องนี้ เราไม่ใช่ผู้ที่ตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด

“ผมขอยืนยันว่า เหตุการณ์ของพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่การลงคะแนนแทนกัน แต่เป็นการช่วยกันลงคะแนน เนื่องจากเครื่องลงคะแนนมีจำนวนไม่เพียงพอ เราจึงต้องช่วยกัน และเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การลงคะแนนของคนที่ไม่อยู่ในห้องประชุม หรือเสียบบัตรแทนกัน ผู้ที่เป็นส.ส.เจ้าของบัตรก็อยู่ในห้องประชุม แต่ด้วยช่องลงคะแนนมีน้อยกว่าจำนวนส.ส.ค่อนข้างมาก จึงต้องมีการดึงบัตรเข้าออกอยู่แล้ว” นายชัยวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่ามีการเสียบบัตรแทนกันมากกว่าหนึ่งครั้ง เพราะบอกว่ากดบัตรไม่สะดวก นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การเสียบบัตรเข้าออกในหนึ่งช่องเป็นเรื่องปกติ เพราะช่องเสียบบัตรไม่เพียงพอ แต่วันนั้นเนื่องจากว่ามีบัตรวางอยู่แล้วเจ้าของบัตรบอกให้ช่วยเสียบบัตรให้ เพราะไม่สามารถก้มลงมาได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว และเจ้าของบัตรก็อยู่ตรงนั้น

เมื่อถามว่า กฎข้อบังคับมีอยู่ชัดเจนแล้ว แต่จะโทษเรื่องของอุปกรณ์ไม่พร้อมใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ใช้คำนั้น แต่เนื่องจากห้องประชุมช่องเสียบบัตรไม่พอ เราก็ต้องแก้ปัญหาช่วยกันให้การประชุมดำเนินการได้ราบรื่น ย้ำว่า เราไม่มีนโยบายให้เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันแน่นอน

ด้าน น.ส.ภริม กล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนนั่งตรงกับช่องเสียบบัตรพอลงมติของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เจ้าของบัตรอีกใบหนึ่งก็เดินมาแต่ไม่สามารถเอื้อมมากดบัตรได้ จึงบอกให้ตนช่วยกดบัตรให้ โดยแสดงสัญลักษณ์ว่าต้องการจะกดอะไร ดังนั้น ในสิ่งที่ตนกดแทนให้เขาจึงไม่ได้เป็นการกดตามเจตนารมณ์ของตัวเอง แต่เป็นการกดเจตนารมณ์ของเจ้าของบัตร ซึ่งเจ้าของบัตรก็อยู่ตรงนั้น และผลการลงคะแนนก็ตรงกับความตั้งใจของคนที่ให้กดบัตรให้ ซึ่งบัตรอีกใบเป็นของนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวทั้งสองคนถูกสื่อมวลชนซักถามจำนวนมาก และมีหลายคำถามที่ทั้งสองคนมีอาการอ้ำอึ้ง จนตอบคำถามอย่างติดขัด โดยเมื่อผู้สื่อข่าวไม่หยุดยิงคำถามทั้งคู่จึงเดินออกจากวงแถลงข่าวไป

โดยภายหลังที่วิปรัฐาลได้แถลงข่าวชี้แจง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวในประเด็นเดียวกันว่า ขอเรียกร้องให้ประธานสภาฯเปลี่ยนระบบการลงคะแนนด้วยการใช้บัตรมาเป็นการแสดงอัตลักษณ์ควบคู่ไปด้วย เช่น การสแกนม่านตาและลายนิ้วมือ ซึ่งคิดว่ายังน่าจะเปลี่ยนแปลงระบบได้เนื่องจากอาคารรัฐสภาแห่งใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

“สภาของเรามีช่องกดบัตรจำนวนน้อยมีเพียง 300 ช่อง แต่มีส.ส. 500 คน ทำให้ต้องการมีดึงบัตรออกและเสียบบัตรเข้าไปใหม่ โดยกรณีที่เจ้าตัวอยู่ในห้องแล้วให้คนอื่นเสียบแทน เช่นนี้ยอมรับได้ เพราะตัวยังอยู่ แต่หากตัวไม่อยู่ หรือไปต่างประเทศ ย่อมผิดแน่นอน พฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะช่องการลงคะแนนไม่พอจริงๆ” น.ส.รังสิมา กล่าว

ทั้งนี้ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเห็นชอบร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย หารือกรณีมีบุคคลเสียบบัตรค้างไว้ ทำให้ไม่กล้าใช้เครื่องลงมติ เพราะจะเกิดความสับสนว่า เสียบบัตรแทนกัน ส่วนร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ หารือว่า หากสถานที่ไม่เอื้ออำนวย สมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมจะสามารถฝากบัตรให้คนอื่นเสียบแทนได้หรือไม่ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวสั้นๆ ว่า “ผิดแน่ๆ”