“หมวดเจี๊ยบ” จี้ถาม “ประยุทธ์” ตอบให้ชัด “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” หากร่างงบฯ 63 แท้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาพูดให้ชัด ๆ ว่า รัฐบาลจะเลือกลาออกหรือยุบสภา ถ้าหากร่าง พรบ. งบประมาณฯ 2563 ถูกวินิจฉัยให้เป็นโมฆะ ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ อย่าพูดปัดว่าเรื่องเสียบบัตรแทนกันไม่เกี่ยวกับตัวเอง เพราะต้นเหตุคือ รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ จึงทำให้ ส.ส. ต้องเสียบบัตรแทนกัน แจกกล้วยให้ลิง และทุ่มซื้องูเห่า จนสภาถูกเปรียบเทียบกับสวนสัตว์ ทั้ง ๆ ที่ เขาดินก็ย้ายไปอยู่ห่างจากสภาตั้งนานแล้ว

วันที่ 22 มกราคม 2563 ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขณะนี้ สังคมกำลังรอฟังท่าทีที่ชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เป็นโมฆะจากกรณีเสียบบัตรแทนกัน ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ควรพูดปัดความรับผิดชอบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของสภาและไม่เกี่ยวกับตัวเอง เพราะรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองหากกฎหมายการเงินไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาอย่างถูกต้อง ส่วนที่ฝ่ายกองหนุนรัฐบาลช่วยแก้ตัวว่า แค่ ส.ส. ลงมติไม่ถูกต้องเพียง 1-2 คน ไม่เห็นจะเป็นอะไร ไม่ควรมีผลให้กฎหมายเป็นโมฆะนั้น ฟังไม่ขึ้น และเป็นการเลี่ยงกฎหมายแบบศรีธนญชัย คนไทยยุคนี้ ต้องการความจริงและความตรงไปตรงมา ถ้าถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด อย่าเลี่ยงกฏหมายเพื่อช่วยปกป้องใคร

ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จะอ้างไม่ได้ว่าเรื่องเสียบบัตรแทนกันนั้นไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะต้นเหตุที่ ส.ส ต้องเสียบบัตรแทนกัน ก็เพราะต้องโหวตช่วยรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจึงขาดเสถียรภาพ เวลาจะโหวตลงมติอะไรแต่ละครั้ง เรียกว่าส.ส. แทบไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะอาจทำให้รัฐบาลแพ้โหวตหรืออาจทำให้สภาล่มทันที จึงทำให้เกิดการเสียบบัตรแทนกัน รวมทั้ง การแจกกล้วยให้ลิงและการล่อซื้องูเห่าในสภา ซึ่งรู้กันและลงมือทำกันเป็นขบวนการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ ส.ส. คนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อความอยู่รอดของหมู่คณะ เรื่องที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่ความบกพร่องเฉพาะตัวของ ส.ส. ไม่กี่คน แต่เป็นความชำรุดของระบบการเมืองทั้งระบบ ที่เป็นผลพวงของรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งออกแบบโครงสร้างอำนาจและกติตาเลือกตั้งอย่างบิดเบี้ยว จนทำให้สถาบันการเมืองไทยอ่อนแอ และเปิดช่องให้คนไม่ดีเข้ามามีที่นั่งในสภาได้ง่าย

ทั้งนี้ ประเด็นการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่อง ส.ส. กดบัตรแทนกันถือเป็นอำนาจหน้าที่ของสภา ส่วนการวินิจฉัยว่า ร่าง พรบ. งบประมาณฯ 2563 เป็นโมฆะหรือไม่ ถือเป็นความรับผิดชอบของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของความรับผิดชอบทางการเมือง ถ้ากฎหมายสำคัญทางการเงินอย่าง ร่าง พรบ. งบประมาณฯ ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาอย่างถูกต้อง ก็ถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ที่ต้องพูดให้ชัดว่า จะลาออก หรือ ยุบสภา เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็อย่ามาทำเป็นเฉไฉ รีบกำหนดท่าทีให้ชัดเจนว่ารัฐบาลจะ ลาออกหรือยุบสภา ถ้า ร่าง พรบ. งบประมาณ ฯ 63 ถูกวินิจฉัยให้เป็นโมฆะ