เมื่อเวลา 13.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาารคาม พท. ในฐานะประธานคณะกรรมารประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงหลังประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมมีมติคือ

1.ญัตติตรวจสอบผลกระทบ และการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยจะเสนอเป็นญัตติด่วน เพื่อให้พิจารณาอย่างเร่งด่วนเป็นวาระแรก พร้อมเสนอให้ตั้งคณะกรรมการศึกษาอย่างเร่งด่วน

2.รายงานผลการศึกษาผลกระทบจากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ฝ่ายค้านได้ศึกษาแล้ว พบว่าเรื่องนี้เหมือนการเจาะจง และเลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และซ้ำเติมเศรษฐกิจกับประชาชน

3.พรรคร่วมฝ้ายค้าน มีมติให้ติดตามเรื่องการกดบัตรแทนกัน เพราะเรื่องนี้จะกระทบต่อมาตรฐานจริยธรรมของส.ส. และยังมีผลทำให้กฎหมายหลายฉบับ จะต้องถูกตีความว่าโมฆะหรือไม่ โดยเฉพาะพ.ร.บ.ร่างงบประมาณปี 2563 นอกจากนี้ หากสถานภาพของ

4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ถูกขับสิ้นสุดแล้ว แต่มีการไปกดบัตร จะกลายเป็นเหตุให้ถูกตีความอีก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านมีมติตั้งคณะทำงานติดตามการทำหน้าที่ของประธานสภาด้วย เนื่องจากมีหลายเรื่องต้องตีความ และหาข้อสรุป เพราะในมุมมองของนักกฎหมาย

เมื่อเทียบเคียงกับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นโมฆะเนื่องจากมีการเสียบบัตรแทน กรณีนี้ก็ไม่น่าต่างกัน ซึ่งทางออกนั้น อาจให้พิจารณาวาระ 3 ใหม่ หรือลงมติใหม่ ซึ่งอยู่ที่ประธานสภา โดยรัฐบาลควรทำเรื่องนี้ให้สิ้นสุดก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ

นายสุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 7 พรรค ยังเป็นเอกภาพ ไม่มีใครหวั่นไหวกับข่าวที่ออกมา ไม่ว่าเรื่องฮั๊ว หรือซูเอี๋ยกัน ส่วนตัวบุคคลที่จะถูกอภิปราย วันนี้เพิ่มจาก 5 คน มาเป็น 7 คน แต่ยังไม่ได้สรุป ดังนั้น กว่าจะถึงวันที่ 29 ม.ค. อาจจะเพิ่มขึ้นมาอีก

โดยรายชื่อที่เพิ่มขึ้นมาจาก 5 คนที่เคยวางไว้ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ พรรคร่วมพรรคอื่นเสนอรายชื่อมาก็ไม่ต่างกัน

ต่อมาเวลา 14.30 น. พรรค พท.มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวสับสน

ซึ่งคนปล่อยข่าวบัดซบ เป็นพวก “จันอัป” เอาข่าวมาปล่อยว่าตนไปกินข้าว ไปพูดคุย รับเงินจากบางคนเพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางรายชื่อ ซึ่งตนขอให้สาปแช่งคนที่เอาข่าวไปพูดและคนออกข่าว ให้พบกับความวิบัติ และถ้าคณะตนทำเช่นนั้น ขอให้เกิดความวิบัติเช่นกัน

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธาน ตั้งขึ้นเพื่อดูตัวบุคลลที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอหัวหน้าพรรค แล้วหัวหน้าพรรคจะเอาไปพูดคุยกับ 7 พรรค จึงจะได้ข้อยุติ ตนไม่ได้บอกให้เสนอ หรือไม่เสนอใคร

“ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่มีซูเอี๋ย ไม่มีดีล มีแต่การเอาข้อเท็จจริงมาบอกประชาชนและสื่อ มาบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เหมาะจะบริหารประเทศอีกต่อไป และจนถึงขณะนี้ผมยังไม่รู้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายใครบ้าง แต่ส่วนตัวผมวางไว้ 5 คน ถ้าใครสนใจจะอภิปราย 5 คนที่ผมเสนอ หัวหน้าพรรคก็จะให้มาฝึกฝน และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผม เพราะทั้ง 5 ชื่อที่คณะกรรมการกิจการพิเศษฯเสนอ เรามีข้อมูลพร้อม” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่จะอภิปราย แอบบอกให้ก็ได้ว่า ช่วยคดีบริษัทต่างชาติไม่ได้ ก็มาแก้กฎหมาย สุดท้ายเก็บภาษีไม่ได้ เป็นต้น รัฐบาลแบบนี้จะให้อยู่ได้อย่างไร เขาจะตอบอย่างไร ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน วันนี้ตนไม่มีสิทธิเข้าประชุมกับผู้บริหารพรรค ไม่มีสิทธิเข้าไปประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แล้วใครจะโง่มาดีลกับตน ต้องด่ารัฐบาลชุดนี้ มันกลัวเงาตน เลยต้องขย่มตน

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า 7 พรรคฝ่ายค้านเรามีมติยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 29 ม.ค. ระหว่างนี้หัวหน้าแต่ละพรรคจะเป็นผู้สรุปรายชื่อผู้ที่จะถูกอภิปรายร่วมกัน ก่อนยื่นญัตติอภิปราย ซึ่งตัวเลขผู้ที่จะถูกอภิปรายเบื้องต้นคือ 7 บวกๆ เราจะคุยกันเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันที่ 29 ม.ค. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้า พท. กล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 สมุทรปราการว่า กำลังเตรียมอยู่ แต่อาจจะไม่ใช่คนเดิมลงสมัคร