‘วราวุธ’รอ 3 หน่วยงานสอบที่มาโฉนด’กนกวรรณ’รุกป่าขาใหญ่หรือไม่ ลั่นใครผิดต้องดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงกรณีที่นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถูกกล่าวหาว่าครอบครองที่ดินที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า กรณีที่ดินในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่ 1 คือ มีการเข้าไปบุกรุกนอกโฉนด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยการไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และส่วนที่ 2 คือบริเวณที่มีข้อกังขา ว่ามีการออกโฉนด หรือเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดังกล่าว ก็ต้องมีการไปตรวจสอบว่าโฉนดแปลงนั้น ถือกำเนิดมาได้อย่างไร มาจากใบสค.1หรือไม่ หรือมีมาตั้งแต่ก่อนประกาศว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในปี 2505 แล้วตกทอดมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นโฉนดในปัจจุบัน หรือมีการทับซ้อนกันจริง ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำลังตรวจสอบ แต่ต้นกำเนิดของใบสิทธิ์การครอบครอง ก็ต้องมีการไปตรวจสอบไล่เรียงว่าเกิดมาอย่างไร หากพบว่าเอกสารแสดงสิทธิ์ครอบครองที่ดินออกมาก่อนการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็เป็นสิทธิ์ที่เขาสามารถอยู่ได้ แต่ถ้ามีการประกาศเป็นเขตพื้นที่อุทยานฯ ไปแล้ว แล้วเขามาครอบครองที่ดินภายหลัง ก็ถือว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ

“ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กระทรวงทรัพยากรฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามกฎหมาย โดยใช้กฎหมายเดียวกัน และมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใคร หากพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีอะไรต้องหนักใจ” นายวราวุธ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลจะเกิดปัญหาในการตรวจสอบ จะถูกมองว่าเป็นการลูบหน้าปะจมูกหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า กฎหมายเป็นฉบับเดิม เราไม่มีปัญหา ทุกอย่างว่ากันไปตามตัวหนังสือและตามบทบัญญัติของกฎหมายที่มี ส่วนที่มีการไปแผ้วถางในพื้นที่นอกโฉนดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทางกระทรวงฯ ได้ดำเนินการแจ้งความไปแล้ว

เมื่อถามว่าจะใช้เวลาตรวจสอบเรื่องนี้นานแค่ไหน นายวราวุธ กล่าวว่า ตนกำลังรอการรายงานจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เพราะตนก็ไม่เคยทำเรื่องการสืบเอกสารลักษณะดังกล่าว จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกรมที่ดิน กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ พูดคุยให้ได้ข้อสรุปว่าเอกสารดังกล่าวออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งตนยังตอบไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการตรวจสอบนานแค่ไหน แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบ

เมื่อถามอีกว่าทางกระทรวงฯ ตรวจพบว่ามีนักการเมืองคนอื่นเข้าไปถือครองพื้นที่ที่บุกรุกป่าเช่นนี้อีกหรือไม่ นายวราวุธ​ กล่าวว่า “โอโห ถ้าจะไปตรวจสอบส.ส.ทั้ง 500 คน ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรฯ ไปไล่ดูเอกสาร จากป.ป.ช. ซึ่งเราคงไม่มีเวลาขนาดนั้น แต่ ณ วันนี้ เท่าที่ได้รับรายงานว่ายังไม่ทราบว่ามีรายอื่นอีกหรือไม่ แต่ในอนาคตมีเรื่องที่อยากให้ทางกระทรวงฯ ขึ้นหน้าสื่อ เดี๋ยวก็คงมีข่าวเข้ามาอีก”