“อนาคตใหม่” จี้กองทัพต้องรับผิดชอบทันที ไม่ควรให้ครอบครัวทหารเกณฑ์เหยื่อซ้อมดับฟ้องเรียกค่าเสียหาย

วันที่ 17 มกราคม 2563 นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่​ ได้ทวิตข้อความถึงความคืบหน้าในการเยียวยาครอบครัวของทหารเกณเกณฑ์ที่เสียชีวิตว่า สิบโทกิตติกร สุธีรพันธุ์ เสียชีวิตที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 25 เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2559​ ​ซึ่งเหตุแห่งการเสียชีวิต คือ บาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง สมองบวม บริเวณทรวงอกภายในมีกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ บริเวณปอดมีรอยฟกช้ำที่กลีบปอดซ้าย กระเพาะอาหารแตก​ การกระทำดังกล่าวมีการจงใจสั่งการ และร่วมกับพลทหารผู้ช่วยทำร้ายสิบโทกิตติกร โดยทารุณโหดร้าย และจงใจไม่แจ้งให้แพทย์ทราบถึงอาการบาดเจ็บของสิบโทกิตติกร​รวมถึงไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ข่มขู่ไม่ให้ผู้ต้องขังที่อยู่ภายในห้องขังเดียวกันช่วยเหลือสิบโทกิตติกร​ และสั่งผู้ต้องขังในห้องขังทำร้ายร่างกายสิบโทกิตติกร ที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้นห้องหลายครั้งจนถึงแก่ความตาย

ทหารตายในเรือนจำทหาร ถูกซ้อมทรมานจนตายด้วยฝีมือทหารชาติเดียวกันมันน่าคับแค้นใจ

ผู้ที่อาสาเป็นทหารหากจ้องเสียสละชีวิตก็ควรต้องพลีชีพด้วยคมกระสุนจากอริราชศัตรู ไม่ควรต้องมาตายด้วยท็อปบู๊ทของทหารชาติเดียวกันแบบนี้​ และทหาร ตายในเรือนจำทหาร ด้วยเท้าของทหาร จริงๆ กองทัพบกควรแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทันที​ ไม่ควรต้องให้แม่ของผู้ตายมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย แบบนี้ที่ผ่านมาสิ่งที่ครอบครัวของ ส.ท.กิตติกร ได้รับ คือ ค่าจัดการศพ 50,000 บาทได้แค่ค่าจัดการศพ แค่ 50,000 บาทเองหรือ

สุดท้ายแม่ผู้ตาย ต้องฟ้อง จนถึงศาลฎีกา ถึงจะได้ข้อสรุปว่ากองทัพบกต้องชดใช้ค่าเสียหาย 1,870,000 บาท + ดอกเบี้ย 7.5%

โดยนายวิโรจน์​ ตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อหลักฐาน ปรากฎชัดว่า ส.ท.กิตติกร ถูกซ้อมทรมานตาย ในเรือนจำทหาร โดยทหาร ซึ่งกองทัพบกไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้อยู่แล้วทำไมไม่แสดงความรับผิดขอบอย่างชายชาติทหาร ด้วยการยอมรับผิด และชดเชยค่าเสียหายให้กับญาติผู้ตายทันทีทำไมต้องให้เขาฟ้องจนถึงฎีกา?

แล้วเมื่อไหร่กองทัพจะจ่ายตามคำสั่งศาลฎีกา?

เมื่อไหร่จะเป็นศพสุดท้าย?

เมื่อไหร่จะเลิกพฤติกรรมซ้อมทรมาน ทหารชาติเดียวกันเสียที?

ยังคงเป็นคำถาม ที่สังคมยังรอคอยคำตอบ

นอกจากนี้นายวิโรจน์กล่าวว่า​ ส.ท.กิตติกร เสียชีวิตต่อให้เขาเป็นทหารแต่เขาก็คือ ประชาชนมีพ่อมีแม่ มีครอบครัว มีคนที่เขารัก มีคนที่เขาต้องเลี้ยงดูเขาไม่ควรต้องมาตายแบบนี้ ไม่ควรต้องมาตายแบบนี้จริงๆ
แม้ว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเงินชดเชย 1.87 ล้านที่ได้ คิดอย่างไงก็ไม่คุ้​ม​กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น