ไวรัสปริศนาในอู่ฮั่น : จีนเผยดับรายที่ 2 สธ.ไทยพบผู้ป่วยคนที่ 2 ห่วงเที่ยวช่วงตรุษจีน

เจ้าหน้าที่ทางการจีน รายงานเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาว่า พอผู้ติดเชื้อไวรัสปริศนาคล้ายไวรัสโรคซาร์ส ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ตอนกลางของประเทศจีน เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 แล้ว

รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 69 ปี เสียชีวิตในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยชายรายดังกล่าวเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม ก่อนที่อาการจะแย่ลงในวันที่ 4 มกราคม ด้วยอาการวัณโรคปอด และอาการอวัยวะหลายส่วนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่อย่างน้อย 41 ราย ในจำนวนนี้ 12 รายอาการดีขึ้นและสามารถกลับบ้านได้แล้ว ขณะที่อีก 5 ราย ยังคงมีอาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื่อที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นด้วย ขณะที่ล่าสุดยังคงไม่มีการยืนยันว่าไวรัสดังกล่าวสามารถติดต่อกันจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ อย่างไรก็ตามมีการประกาศเตือนว่า ยังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ดังกล่าวออกไปได้

ด้านนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์ผู้ติดเชื้อปอดอักเสบจากอู่ฮั่น ว่า ขณะนี้เราพบผู้ป่วยปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายที่สองของประเทศไทย โดยเป็นหญิงชาวจีนอายุ 74 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ตรวจคัดกรองได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่า มีไข้สูง 38 องศาเซลเซียส มีอาการทางเดินหายใจร่วม คือ หายใจเร็ว จึงประสานส่งตัวสถาบันบำราศนราดูร

โดยขณะนี้อาการดีขึ้น ไข้ลง กินอาหารได้ตามปกติ หลังจากผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) จาก 2 แห่ง ยืนยันชัด สำหรับการตรวจคัดกรองตั้งแต่วันที่ 3-16 ม.ค. 2563 ที่มีการบินตรงมาจากอู่ฮั่นทั้งหมด 86 เที่ยวบิน จาก 4 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 13,624 ราย เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 21 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ หายดีกลับบ้านแล้ว 12 ราย เป็นเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 2 ราย

โดยรายแรก อาการดีมาก ไม่มีไข้ รอตรวจแล็บซ้ำว่าไม่เจอเชื้อไวรัสแล้ว หรือผลตรวจเป็นลบ จึงให้กลับบ้าน คาดว่ากลับได้ใน 2-3 วัน ส่วนรายที่สอง ก็รักษาติดตามอาการ หากไม่เจอเชื้อไวรัสก็ให้กลับบบ้านได้ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายแรก 16 คน และรายที่สอง 20 คน ตรวจไม่พบการติดเชื้อ

ขณะที่ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องรอให้ผลตรวจแล็บเชื้อไวรัสเป็นลบถึงปล่อยตัวกลับบ้าน ทั้งที่ไม่มีอาการไข้แล้วนั้น เพราะการตรวจเจอเชื้อไวรัส เราไม่ทราบว่าเป็นเชื้อเป็นหรือเชื้อตาย จึงใช้ความปลอดภัยสูงสุดคือผลตรวจแล็บต้องเป็นลบ คือไม่เจอเชื้อไวรัสที่คอ ดังนั้น ผู้ป่วยรายแรกตรวจแล็บพบว่าแนวโน้มที่เจอเชื้อลดลง ก็คิดว่าจะกลับบ้านได้ใน 2-3 วันนี้ สำหรับการรักษาเนื่องจากไม่มียาและวัคซีน จึงรักษาตามอาการให้ไม่มีไข้ เพื่อให้ร่างกายกำจัดเชื้อไวรัสเอง

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการสอบถามสถานทูตจีน พบว่า คนอู่ฮั่นมีเป้าหมายการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นประเทศแรก ส่วนมาตรการช่วงตรุษจีนก็จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ซึ่งเรามีการตรวจจับทั้งสนามบิน โรงพยาบาล และในชุมชนแหล่งท่องเที่ยว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวมาจากอู่ฮั่นโดยตรงประมาณ 1,200-1,400 รายต่อวัน โดยช่วงจะตรุษจีนนี้จะมีการเดินทางมาจากอู่ฮั่นเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ใน 5 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ 3 เที่ยวบิน ดอนเมือง 2 เที่ยวบิน ภูเก็ต 2 เที่ยวบิน กระบี่ 1 เที่ยวบิร และเชียงใหม่วันเว้นวัน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยอยู่ประมาณ 5-7 วันแล้วกลับ