4เขื่อนใหญ่โคราชน้ำลดต่อเนื่อง เหลือน้ำใช้การ 30% เท่านั้น ห้ามทำนาปรังเด็ดขาด

นครราชสีมา-วันที่ 17 มกราคม นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 4 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ภาพรวมขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่เพียง 293 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33.11 ของความจุเขื่อนทั้งหมด แต่เป็นน้ำใช้การได้เพียง 255 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 30.15 เท่านั้น ซึ่งถือว่าปีนี้เหลือปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้ โดยเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำใช้การเหลืออยู่ 123 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42.17 ของความจุเขื่อน, เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำใช้การเหลืออยู่ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 13.45 ของความจุเขื่อน, เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำใช้การเหลืออยู่ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30.28 ของความจุเขื่อน และเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำใช้การเหลืออยู่ 71 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26.63 ของความจุเขื่อน

ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้องมีมาตรการบริการจัดการน้ำควบคุมการใช้น้ำอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตรหรือทำนาปรัง โดยปีนี้ทุกเขื่อนจะไม่มีการส่งน้ำให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานที่มีพื้นที่อยู่ประมาณ 700,000 ไร่ทำนาปรังโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานรับทราบแล้ว แต่ก็ยังพบว่า มีชาวนาหลายพื้นที่มีการแอบลักลอบปลูกข้าวนาปรังกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนคำเตือน มีโอกาสเสี่ยงขาดแคลนน้ำทำการเกษตรซึ่งจะทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายสูงมากอย่างไรก็ตาม ชลประทานยืนยันว่า การบริหารจัดการน้ำยังเป็นไปตามแผน