ครูนายกฯ ห่วง ‘บิ๊กตู่’อารมณ์เสียง่าย แนะ ‘ข่มอารมณ์-ยิ้ม’ คนจะรักมากขึ้น

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเนื่องในวันครูแห่งชาติ ครั้งที่ 64 พ.ศ.2563 ภายใต้หัวข้อ “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง คณะครูร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยปีนี้นายกรัฐมนตรีมอบคำขวัญวันครูว่า “ครูไทย รักศิษย์ คิดพัฒนา” โดยนายกฯ ได้ถวายสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สักการะปฐมบูรพาจารย์ ณ แท่นที่บูชา ศีรษะครู 7 องค์ ประกอบพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมพิธีคารวะครูอาวุโส เพื่อแสดงความกตัญญู และน้อมรำลึกถึงพระคุณครู โดยคารวะครูที่เคยสอนสมัยเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ได้แก่ นายวีระ เดชพันธ์ ครูเกษียณฯ

โดยก่อนหน้านี้เวลา 07.15 น. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรวันครู ถวายข้าวสารพระสงฆ์ 99 รูป ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าศธ. จากนั้นเวลา 08.00 น. นายณัฏฐพล พร้อมคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คณะอนุกรรมการจัดงานวันครูฯ ผู้บริหารระดับสูงของศธ. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา และ ประชาชน ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่ครูผู้วายชนม์ และมีพิธีบูชาบูรพาจารย์ โดยมีนางลักขณา ตัณฑวุฑโฒ รองปลัดศธ. อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และนายโสภณ กมล ครูอาวุโสในประจำการ นำผู้ร่วมชุมนุมกล่าวคำปฏิญาณตนของครูและบุคลากรทางการศึกษา

นายณัฐพล กล่าวรายงานนายกฯ ตอนหนึ่งว่า งานวันครูครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500 จากนั้นจัดมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 64 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ เพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชนและเพื่อส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดีหรือทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า การจัดงานวันครูปีนี้ ศธ.โดยคุรุสภาได้รับความร่วมมือจาก ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เป็นผู้นำหลักในการจัดงานวันครูของสถานศึกษาในส่วนภูมิภาค และสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร เป็นผู้นำหลักในการจัดงานวันครูของสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดจัดงานวันครูพร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับส่วนกลาง จัดระยเวลา 2 วัน คือ วันที่ 16-17 มกราคม ที่หอประชุมคุรุสภา ซึ่งกิจกรรมหลักทั้งส่วนกลางและภูมิภาค คือ การระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การระลึกถึงพระคุณครู กิจกรรมเสวนาทางวิชาการ รวมทั้งการมอบรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล และนิติบุคคลที่สร้างคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ และผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่สร้างผลงานที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนและคุณภาพการศึกษาของประเทศ

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ศธ.ขอให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมสัปดาห์วันครู ระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม เพื่อให้ครู นักเรียน ครูภูมิปัญญาและชุมชน ร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมครูเยี่ยมบ้านเด็ก การเยี่ยมเยือนครู และกำหนดคำขวัญประจำสถานศึกษา เป็น “หนึ่งคำขวัญ หนึ่งสถานศึกษา” ที่สอดคล้องเหมาะกับบริบทของสถานศึกษา รวมทั้งจัดชุมนุมครูพื่อให้ครูทุกคนได้มีโอกาสกล่าวคำปฏิญาณตน แสดงถึงการให้คำมั่นในการประกอบวิชาชีพ และการรับผิดชอบต่อเยาวชนและการศึกษาของชาติอีกด้วย

“จากการที่ผมลงพื้นที่ เห็นความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณของความเป็นครู สิ่งที่ขาดคือการพัฒนาให้ทันยุคทันสมัย ต้องขอความกรุณานายกรัฐมนตรี พิจารณาในการสนับสนุนให้มีการพัฒนาครูให้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว หลายเรื่องที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้ในงานวันครู ตรงกับที่ ศธ.กำลังดำเนินการอยู่ นโยบายหลักที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำคือต้องการให้พัฒนาและปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะหาก ศธ.ไม่พัฒนาและปฏิรูปการศึกษาจะตามประเทศอื่นไม่ทัน เนื่องจากปัจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่ผมไปประเทศจีนมาเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าประเทศจีนนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ ทำให้หลักสูตรข้อมูลต่างๆ เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ห่างไกลได้ ซึ่งตรงกับแผนงานที่ ศธ.กำลังวางไว้ในการพัฒนาการศึกษาเช่นกัน” นายณัฏฐพล กล่าว 

ด้านนายวีระ เดชพันธ์ ครูเกษียณฯ สอนนายกฯ สมัยเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ กล่าวว่า ตนอายุ 81 ปี สอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หากถามว่าตอนเด็กนายกฯ เป็นอย่างไร ครูจำไม่ได้แล้ว เพราะผ่านมานานกว่า 40 ปี ตอนนี้ได้เห็นนายกฯ ในฐานะผู้บริโภคจากสื่อทั่วไป บางครั้งนายประยุทธ์แสดงอารมณ์เสีย อะไรเป็นเหตุให้อารมณ์เสีย ก็ไม่ทราบ แต่การที่ท่านแสดงอะไรออกมา ครูก็เป็นห่วง หากคนอารมณ์เสียแล้วสามารถข่มอารมณ์ มีความอดทน ยิ้มอย่างเดียว ก็จะทำให้ท่านน่ารักขึ้น ก็เป็นห่วงเรื่องนั้น

นายวีระ กล่าวต่อว่า ตอนที่พบกันบนเวที ครูก็ได้ชื่นชมนายกฯ เป็นนักเรียนวัดนวลนรดิศคนแรกที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่ราชการ จนได้เป็นนายกรัฐมนตรี เราดีใจ และรู้สึกเป็นเกียรติ คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง มีความปีติยินดี และชื่นชมในความสำเร็จ ทำให้โรงเรียนวัดนวลนรดิศสูงขึ้น เป็นเรื่องที่ครูดีใจ พ่อแม่ที่ลูกประสบความสำเร็จก็ดีใจ แต่ท่านเป็นทั้งลูก เป็นทั้งศิษย์ เพราะฉะนั้น ท่านประสบความสำเร็จเช่นนี้ ท่านนำความภาคภูมิใจของนวลนรดิศ 129 ปีให้เด่น สูงขึ้น ซึ่งครูเองก็ได้ฝากให้นายกฯ ดูแลประเทศ นายกฯ ก็ตอบว่ายินดีและขอรับไว้

“ฝากถึงนายกฯ ว่า คนที่เป็นครูต้องรักเด็ก และคนเราถ้ารักแล้ว ความเมตตากรุณาก็จะมี เพราะฉะนั้นการสอนก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ครูเองได้ฟังที่นายกฯ พูดและสรุปได้ว่า นายกฯ งานหนักมาก เพราะฉะนั้นคนที่งานหนัก มีสิบมือสิบเท้าก็บริหารประเทศให้เจริญไม่ได้ ต้องการความเข้าใจ ทุกคนเป็นคนไทยต้องสนับสนุนและกำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้นอกจากห่วงเรื่องที่นายกฯ มีอารมณ์โมโหแล้ว ก็อยากให้นายกฯ มีกำลังกาย กำลังใจ บริหารประเทศให้ประสบความสำเร็จ ที่ผมเตือนนายกฯ และพูดถึง เพราะผมรัก ผมติดตามข่าวนายกฯตลอด ความเห็นต่างกับความขัดแย้ง คนละอย่างกัน แต่เราต้องการความเจริญของประเทศ เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกัน ไม่มีอะไรที่ยืนยงถาวร วันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยน แต่ขณะที่เราอยู่นี้ เราควรจะช่วยกัน”นายวีระกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีทั้งม็อบไล่ลุง เชียร์ลุง ห่วงนายกฯ หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า เป็นห่วง คนไม่ใช่เครื่องจักร ต้องการความรักและความเห็นใจ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยนายกฯ ถ้าเรื่องการเมือง เป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ที่มีพฤติกรรมแสดงออกแบบนี้ มีจุดประสงค์อะไร เพราะฉะนั้นก็ต้องช่วยกันประคับประคองกันไป