“ปิยบุตร” ซัด กกต.ตอบปมเอกสารหลุดไม่เคลียร์ แต่เลือกปกป้องตัวเอง-จี้หาคนผิด

ไม่ตรงตามธงเลยหาช่อง ! ”ปิยบุตร” ชี้ กกต. ไม่เคลียร์สังคม กรณีเอกสารหลุด – แต่กลับป้องตนเองโดยจี้หาคนผิด – อัดกระบวนพิจารณาไม่ประกันสิทธิ์คู่ความ – ลั่น กกต.ไม่ใช่ “นักร้อง” งงไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาตาม ม.72

วันที่ 14 ธันวาคม​ 2563​ ที่อาคารรัฐสภา​(เกียกกาย)​ นายปิยบุตร​ แสงกนกกุล เลขาธิการ​พรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวสืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาชี้แจงกรณีที่มีเอกสารหลุดซึ่งระบุว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึงสองชุด มีมติไม่สั่งฟ้อง แต่ในที่สุด กกต.ก็สั่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตร กล่าวว่า จากที่ กกต.ออกมาชี้แจงนั้น ไม่มีการปฏิเสธว่า เอกสารที่หลุดมาเป็นเอกสารปลอม แม้ทาง กกต.ไม่ได้ยืนยัน แต่หากอ่านจากเนื้อหาที่ชี้แจงที่บอกว่า เอกสารชิ้นนี้หลุดออกมาได้อย่างไร และยังขู่อีกว่าจะดำเนินตามกฎหมายกับผู้ปล่อยเอกสารชุดนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่า เอกสารชุดนี้เป็นของจริง เพราะถ้าไม่ใช่ของจริง คงจะปฏิเสธมาอย่างชัดเจนแล้ว อย่างไรก็ตาม แทนที่ กกต.จะพยายามชี้แจงให้สาธารณชนนั้นคลายความสงสัย กกต.กลับเลือกที่จะปกป้องตัวเอง ด้วยการไปตามหาว่าเอกสารชิ้นนี้เผยแพร่ออกมาได้อย่างไร ใครเป็นคนเผยแพร่ แถมยังขู่ในทางกฎหมายอีกด้วย แทนที่จะตระหนักว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตนนั้นมีปัญหาอย่างไร ทำให้คนใน กกต.เองนั้น ยังเกิดอาการที่ทนไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น คือแทนที่จะไปแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ กลับเลือกที่จะปกป้องตัวเอง

กระบวนพิจารณาไม่ประกันสิทธิ์คู่ความ – อัด กกต.ไม่ใช่ “นักร้อง”

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า พรรคอนาคตใหม่ในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะพรรคอนาคตใหม่เป็นผู้ถูกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค ในกรณีการกู้เงิน หากมองตามหลักกระบวนพิจารณาที่เป็นธรรมแล้ว พรรคอนาคตใหม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลยหรือว่า กระบวนพิจารณาของ กกต.ทำอะไรกันอยู่ ไม่มีสิทธิ์รู้เลยหรือว่า ในท้ายที่สุดเรื่องนี้ได้ยกคำร้องไปแล้ว ไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ พรรคอนาคตใหม่ไม่มีสิทธิ์รู้เลยหรือว่า มาตรา 72 ที่ไปร้องยุบพรรค โผล่ออกมาในช่วงไหนเวลาใด
“หลักกระบวนพิจารณาที่ถูกต้องนั้น จะต้องพิจารณาโดยให้โอกาสคู่ความ ในการโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานเต็มที่ กระบวนการที่พิจารณาต่างๆ จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยให้คู่ความได้รับรู้ นี่คือหลักประกันเบื้องต้นของการพิจารณาความ ต้องไม่ลืมว่า กกต. นั้นคือองค์กรอิสระไม่ใช่นักร้อง ที่เอาข่าวสารต่างๆ ตัดแปะแล้วไปยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น กระบวนการพิจารณาความจำเป็นจะต้องประกันสิทธิ์ให้แก่คู่ความด้วย” นายปิยบุตร กล่าว

งงไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาตาม ม.72 – ถาม กกต.มีธงพอผิดช่องเลยยัดเพิ่ม

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า จากเอกสารแถลงข่าวของ กกต. ตนมีข้อสังเกตอยู่ ​2 เรื่องใหญ่ๆ ข้อสังเกตประการแรก 1.กกต.อธิบายชัดเจนว่า เรื่องนี้ออกเป็น 2 ช่องทาง วิ่งคนละเลน ช่องทางแรกคือ การดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 66 ช่อง ทางที่สองคือการดำเนินการยุบพรรคตามมาตรา 72 ซึ่ง กกต. อาจลืมไปว่าได้เรียกตน คุณธนาธรและเหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ ไปสอบสวนในฐานะพยานของช่องทางแรก แต่คำร้องที่ยุบพรรคในมาตรา 72 กกต. กลับเอาคำให้การของพยานในกระบวนการตามมาตรา 66 มาใช้ แบบนี้คือเรื่องเดียวกันใช่หรือไม่ ซึ่งหากเป็นคนละเรื่อง กกต. จะต้องเรียกตน หรือคุณธนาธร ไปชี้แจงกรณีความผิดตามมาตรา 72 ด้วย

“ข้อสังเกตประการที่ 2 ในกระบวนการพิจารณาในชั้น กกต. เขียนไว้ชัดเจนว่า การดำเนินคดีจะต้องมีการตั้งข้อกล่าวหาเสียก่อน ซึ่งตนและคุณธนาธร ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น และพึ่งมาทราบจากเอกสารที่หลุดมาว่า กรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 13 ได้พิจารณาที่เรียบร้อยแล้ว และยกคำร้องด้วยมติเอกฉันท์ แล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องได้ดำเนินการไปตามปกติ แล้วมีการยกคำร้องเกิดขึ้น แต่เหตุใด กกต.ถึงไม่ยอมหยุด และพยายามที่จะดำเนินเรื่องต่อไป พฤติกรรมแบบนี้ พรรคอนาคตใหม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามว่า การดำเนินการพิจารณาของ กกต.นั้น ตั้งธงไว้ก่อนใช่หรือไม่ เมื่อดำเนินการแล้วไม่ตรงตามธงเลยหาช่อง โดยใช้ช่องมาตรา 72 “ นายปิยบุตร กล่าว

เผยทุกพรรคมีการกู้เงิน – ถ้าจะผิดต้องเขียนให้ชัด

นายปิยบุตร กล่าวว่า ในคดีวีลัคของคุณธนาธร เราได้ต่อสู่ประเด็นหนึ่งว่า กระบวนการพิจารณาของ กกต.มีการข้ามขั้นตอน และในท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลประการต้นๆในการวินิจฉัยว่า กระบวนการพิจารณาของ กกต.นั้นถูกต้อง ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า ในเมื่อเอกสารหลุดมาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องติดตามดูว่าในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญจะรับรองกระบวนพิจารณาของ กกต.อีกหรือไม่
นายปิยบุตร กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ใช่มีแค่พรรคอนาคตใหม่แค่พรรคเดียวที่มีการกู้เงิน แต่ยังมีพรรคอื่นๆที่กู้เงินด้วย กรณีการกู้เงินของพรรคการเมืองต่างๆ ในท้ายที่สุดเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับแต่อย่างใด เพราะการกู้เงินนั้นต้องอยู่ในงบการเงิน ซึ่งต้องเผยแพร่ในที่สาธารณะในทุกๆปีงบประมาณอยู่แล้ว เมื่องบการเงินเปิดออกมา ทุกท่านจะเห็นว่ามีการกู้เงินกันหลายพรรค และที่สำคัญการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่นั้น มีความชัดเจนเพราะมีสัญญากู้เงินอย่างถูกต้อง มีการคิดดอกเบี้ย และมีการชำระคืนไปบางส่วนแล้ว ในขณะที่การกู้เงินของพรรคอื่นๆ นั้นระบุเพียงแค่ยอดเงินกู้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากลากพรรคอื่นมาเพียงเพราะพรรคอนาคตใหม่โดนคดี เพราะสิ่งสำคัญคือ การนำเรื่องกู้เงินซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ผิดนี้มาดำเนินคดี ต้องยุติ หรือหากจะไม่ให้กู้เงิน วันหน้าก็ต้องเขียนไว้ให้ชัด