เมื่อวานนี้ (13 มกราคม 2563) สำนักข่าว บีบีซี รายงานผลการประชุมหารือของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งสหราชอาณาจักร กับเจ้าชายแฮร์รี พระราชนัดดา และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เกี่ยวข้อง ถึงกรณีที่เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ออกแถลงการณ์สะท้านสะเทือนราชวงศ์ว่าทรงจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกระดับสูง  ซึ่งเบื้องต้นนี้ควีนทรงเห็นชอบที่จะให้มีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสำหรับเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนได้ใช้ชีวิตทั้งในแคนาดาและอังกฤษ

การประชุมหารือมีขึ้นที่พระตำหนักซานดริงแฮม มณฑลนอร์โฟล์ก เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรส เจ้าชายวิลเลียม พระราชนัดดาองค์แรก รวมถึง เมแกน ที่สื่อสารทางไกลมาจากแคนาดา ทรงเข้าร่วมด้วย จากนั้นควีนทรงมีแถลงการณ์ว่า การหารือได้ผลสร้างสรรค์ยิ่ง

“ครอบครัวของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าต่างสนับสนุนความปรารถนาของแฮร์รีและเมแกน อย่างเต็มที่ที่จะมีชีวิตใหม่ในฐานะครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้น แม้เราจะยินดียิ่งกว่า หากทั้งสองยังคงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ที่ปฏิบัติพระกรณียกิจเต็มเวลาต่อไป เราเคารพและเข้าใจถึงความปรารถนาที่จะของพวกเขาที่จะใช้ชีวิตเป็นอิสระมากขึ้น ในฐานะครอบครัว ซึ่งยังเป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับครอบครัวของข้าพเจ้า”  แถลงการณ์ระบุ

 แถลงการณ์จากควีนระบุต่อว่า “เป็นเรื่องที่เห็นชอบว่าควรจะมีช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งครอบครัวซัสเส็กซ์ จะได้ใช้ชีวิตในแคนาดาและสหราชอาณาจักร หลังจากแฮร์รีและเมแกนแสดงเจตจำนงชัดว่าจะไม่พึ่งพากองทุนสาธารณะในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่”  

“นี่เป็นประเด็นที่ซับซ้อนสำหรับครอบครัวข้าพเจ้าที่ต้องแก้ไข คงจะมีเรื่องที่ต้องทำอีก แต่ข้าพเจ้าขอตัดสินใจสุดท้ายในไม่กี่วันข้างหน้านี้”  

โรเบิร์ต เลซีย์ นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า แถลงการณ์ของควีนหลังการประชุมหารือส่วนพระองค์ที่ไม่เกิดขึ้นปกติ ทรงใช้ถ้อยคำว่า “ครอบครัวของข้าพเจ้า” และ “พระราชนัดดาของข้าพเจ้า” หลายครั้ง

“นี่เป็นการรับมือที่ไม่ธรรมดา ผมหมายความว่า ถึงเรื่องนี้อาจอาศัยกระบวนการผ่านเจ้าหน้าที่ แต่นี่เป็นควีนเองที่ตรัสกับประชาชน และมีรับสั่งถึงครอบครัวของพระองค์ เพื่อจะแสดงถึงความรู้สึกของพระองค์ สังเกตได้ว่าแทนที่พระองค์จะเรียกบรรดาศักดิ์ของหลานว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเส็กซ์ พระองค์กลับทรงเรียกชื่อแบบง่ายๆ ว่า แฮร์รีและเมแกน” นายเลซีย์ให้ความเห็น

ทั้งนี้ ก่อนหน้าการประชุมหารือ เจ้าชายแฮร์รีและเจ้าชายวิลเลียม ทรงมีแถลงการณ์ร่วมกัน ปฏิเสธข่าวอ้างเบื้องหลังที่ทั้งสองขัดแย้งแยกทางว่าเป็นเพราะเจ้าชายวิลเลียมทรงมีทัศนคติที่บูลลี่ หรือข่มพระอนุชา