“ไช่ อิงเหวิน” ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย นั่งปธน.ไต้หวันอีกสมัย

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “ไช่ อิงเหวิน” ประธานาธิบดีของไต้หวันที่มีท่าทีต่อต้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ สามารถเอาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันได้เป็นสมัยที่ 2 ท่ามกลางความขัดแย้งในภูมิภาค โดยที่ทางการจีนประกาศว่ายังคงจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายต่อไต้หวันในฐานะส่วนหนึ่งของจีน

ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมามีชาวไต้หวันมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนให้กับไช่ อิงเหวินจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ราว 8.17 ล้านคะแนนคิดเป็น  57.1% ของผู้มาลงคะแนนทั้งหมด ขณะที่ “ฮัน คุโอะ-ยู” คู่แข่งจากพรรคก๊กมินตั๋งฝ่ายค้านได้รับคะแนน 5.52 ล้านคะแนนคิดเป็น 38.6 %

นางไช่ได้กล่าวขอบคุณชาวไต้หวันหลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยระบุว่า นับเป็นการ “นำคุณค่าประชาธิปไตยมาสู่การปฏิบัติจริง” โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน จากการที่จีนพยายามอ้างสิทธิ์มาโดยตลอดว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันที่ผ่านมามีท่าทีสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง

นางไช่ระบุด้วยว่า ไต้หวันยินดีที่จะมีส่วนร่วมกับจีน แต่จีนต้องเคารพสิทธิในการเลือกตั้งของชาวไต้หวัน “ผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดที่อำนาจอธิปไตยและประชาธิปไตยของเราถูกคุกคาม ชาวไต้หวันจะประกาศเจตนารมณ์ของเราให้ดังขึ้นอีกครั้ง” พร้อมทั้งเรียกร้องให้จีนยุติการคุกคามไต้หวันด้วย

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของไช่ อิงเหวินครั้งนี้มาจากคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้คะแนนนิยมของพรรคได้ลดลงจากการที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้สำเร็จ ส่งผลให้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นหลายต่อหลายครั้ง แต่หลังจากเกิดกระแสความหวาดกลัวจีนส่งผลให้นางไช่ซึ่งมีแนวทางต่อต้านการแทรกแซงของรัฐบาลจีนชัดเจน ได้รับความนิยมเหนือกว่าฮัน คุโอะ-ยู จากพรรคก๊กมินตั๋งที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมาแถลงข่าวในวันที่ 12 ม.ค. หลังการเลือกตั้งไต้หวันระบุว่า “ไม่ว่าสถานการณ์ภายในไต้หวันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ความจริงพื้นฐานที่ว่ามีจีนเพียงหนึ่งเดียวในโลก และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง” และ “ฉันทามติสากลของประชาคมระหว่างประเทศซึ่งยึดมั่นในหลักการ ‘จีนเดียว’ ก็จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน”

จีนหวังว่าทั่วโลกจะให้การสนับสนุนชาวจีนในการต่อต้านการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนและเข้าใจความพยายาม “รวมชาติ” ของจีน