เผยแพร่ |
---|
วันที่ 9 มกราคม 2563 เวลา 09.45 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี2563 วาระ2-3 วงเงิน 3.2ล้านล้านบาท ต่อเป็นวันที่สอง โดยเป็นการพิจารณาในมาตรา10 งบประมาณกระทรวงต่างประเทศ วงเงิน 4,940,473,000 บาท
โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า รมว.ต่างประเทศคนปัจจุบัน เป็นลูกหม้อกระทรวงต่างประเทศ แต่ผลงานช่วงหลายปีที่ผ่านมาน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะคำพูดที่ออกไปต่อสื่อหลายครั้ง
ล่าสุดปัญหาระหว่างสหรัฐ-อิหร่านก็พูดว่า สหรัฐฯส่งสัญญาณการโจมตีอิหร่านมาให้ไทยทราบล่วงหน้า 1วัน ถือว่าน่าห่วงมาก มีความเสี่ยงดึงไทยเข้าไปสู่ความขัดแย้ง ถ้าสงครามลามมาถึงไทย รมว.ต่างประเทศจะรับผิดชอบได้หรือไม่ เพราะอาจถูกมองในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดได้
“การที่รมว.ต่างประเทศปฏิเสธว่า สิ่งที่พูดเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยลามไปทั่วโลกแล้ว ขอให้รับผิดชอบด้วยการลาออก ขอให้รัฐบาลตัดเนื้อร้ายออก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ดังนั้นจึงไม่ไว้วางใจให้งบประมาณของกระทรวงต่างประเทศ จึงขอตัดงบ1 5%”นายจลพันธ์ กล่าว
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงต่างประเทศ 5% เนื่องจากเรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์และการพัฒนาระหว่างมิตรประเทศ เงินไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ความร่วมมือระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่ต้องเป็นหน้าตาประเทศ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดไปกินรังแตนมาจากไหน พูดเป็นตุเป็นตะเรื่องที่สหรัฐฯ สังหารผู้นำทหารอิหร่าน ถ้าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่าโดนอภิปรายแน่ แต่สุดท้ายบอกว่าเป็นเข้าใจคลาดเคลื่อน
แล้วจะมาบริหารกระทรวงได้อย่างไร การขอตัด 5 % ถือว่ายังน้อยไป ความจริงไม่อยากให้เลยด้วยซ้ำถ้าบริหารแบบนี้ เพราะการพูดจาแบบนี้จะไปสร้างความร้าวฉาน นายดอนพูดจานำพาประเทศสุ่มเสี่ยงต่อความรู้สึกของมิตรประเทศ อยากอวดอะไรก็อวดได้ แต่อย่าเอาคนไทยไปเสี่ยงต่อการอวดรู้ และความเก่งกาจของตัวเอง
ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นายดอน ขาดวุฒิภาวะ จากการสัมภาษณ์ของเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ของสหรัฐฯกับอิหร่าน การดึงไทยเข้าไปมีส่วนร่วมการขัดแย้ง ทั้งที่ความสัมพันธ์ไทย-อิหร่านดีมาตลอด แต่สุดท้ายกลับบอกว่า ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน ถ้าเอาเงินไปให้คนไม่มีความรู้ ความสามารถมาบริหารถือว่าเสียหาย ขอให้ตัดงบกระทรวงต่างประเทศ 10% ยังไม่พอต้องปรับรมว.ต่างประเทศ ออกจาก ครม. ด้วย
ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า สิ่งที่รมว.ต่างประเทศพูดออกมาต้องรับผิดชอบ การที่มีสมาชิกออกมาปกป้อง แต่ตนจะไม่ปรับลดงบประมาณของกระทรวงต่างประเทศด้วยเหตุผลนี้ สิ่งที่เคยคาดการณ์ตัวเลขการเจริญโตทางเศรษฐกิจจะโต 3%นั้น เป็นไปไม่ได้เลย
เพราะมีรัฐมนตรีผีเจาะปากทำลายความเชื่อมั่น ใครจะมาท่องเที่ยว ค้าขายกับเรา เพราะไม่รู้ที่ถูกที่ควร ไม่รู้กาลเทศะ ไร้วุฒิภาวะ แต่ขอชื่นชมข้าราชการกระทรวงต่างประเทศที่ช่วยออกมาปกป้องประเทศ ถูกคัดสรรมาจากคนที่สมองดี เพราะหากเป็นกระทรวงอื่นคงหงอไปแล้ว เป็นการหักหน้าอย่างไม่ปรานี
ด้านนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ผ่านมากล้าปฏิวัติ แต่วันนี้กล้ากับลูกน้องหรือไม่ที่ไม่ประสีประสากับการต่างประเทศ กล้าเอาออกหรือไม่ เพราะเป็นการพูดชักศึกเข้าบ้าน น่าเป็นห่วงมาก ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจโดยด่วน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะถูกดึงเข้าสู่กระบวนการไปด้วย อยากให้ประเทศไทยเป็นกลาง เป็นประเทศมีความสุข
ทั้งนี้ ในการอภิปรายมาตรา 10 กระทรวงต่างประเทศนั้น ปรากฏว่าส.ส.จากพรรคเพื่อไทยทุกคนต่างขึ้นมาถล่มการให้สัมภาษณ์ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ อย่างหนัก พร้อมให้รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานการประชุม ต้องคอยตักเตือนอยู่เป็นระยะๆให้อภิปรายอยู่ในกรอบของงบประมาณรายจ่ายปี2563 ไม่ใช่การอภิปรายในลักษณะอภิปรายไม่ไว้วางใจ กระทั่งเวลา 12.12 น. หลังจากที่สมาชิกอภิปรายจนครบถ้วนทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา10 ด้วยคะแนน 248 ต่อ 6 เสียง งดออกเสียง 200 ไม่ลงคะแนนเสียง 1