เมื่อวันที่ 6 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน จ.นครราชสีมา ได้เริ่มทำการส่งน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค และรักษาระบบนิเวศในช่วงฤดูแล้งปีนี้แล้ว เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีความต้องการน้ำเพื่อใช้ในระบบประปา ภายในเขตชลประทานพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.โชคชัย เบื้องต้นจึงส่งน้ำระยะแรก วันละกว่า 40,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ไปให้ และจะพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มตามสถานการณ์ ซึ่งล่าสุด ปริมาณน้ำภายในเขื่อนมูลบนเหลือ 48.69 ล้าน ลบ.ม.จากความจุทั้งหมดที่ 141 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุ แต่มีปริมาณน้ำใช้การได้จริงเพียง 41.69 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 31 ของความจุเท่านั้น ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทุกปีอย่างมาก อันเนื่องมากจากปีนี้มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ยอย่างมาก ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนมีปริมาณต่ำลงด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำภายในเขื่อนในขณะนี้จึงไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำให้เกษตรกร ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง หรือพืชการเกษตรอื่นได้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานเขื่อนมูลบน จึงมีมติร่วมกันให้งดทำการเกษตรภายในเขตชลประทานที่มีอยู่ประมาณ 45,000 ไร่ ทั้งหมด เพราะทางเขื่อนไม่มีน้ำที่จะสนับสนุน แต่ในส่วนของน้ำเพื่อการการอุปโภค – บริโภค และรักษาระบบนิเวศจะไม่เกิดปัญหา เนื่องจากปริมาณน้ำที่เหลืออยู่เพียงพอดูแลกิจกรรมต่างๆ นี้ได้ทั้งหมด ซึ่งประเมินว่าตลอดช่วงฤดูแล้งปีนี้จะต้องใช้น้ำประมาณ 34 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน ฝากให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดในช่วงนี้ เพราะแม้ว่าปีนี้จะมีน้ำเพียงพอให้ใช้อุปโภค-บริโภค แต่ก็ยังไม่รู้ว่าปีหน้าสถานการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่