ธรรมนัส ยัน ไม่ใช้เงินหลวง ทำหมอนยางพาราฯ แจงราคาแพงเพราะซื้อยางราคาสูง

ธรรมนัส ยัน ไม่ใช่ขอใช้เงินหลวง ทำหมอนยางพาราประชารัฐ ลั่น ไม่มีช่องให้ทุจริต ย้อน ส.ส.อนค. เงินแจกเด็กยากจนเป็นหน้าที่ของ พม. เข้าใจฝ่ายค้านเป็นกระจกเงาสะท้อนการทำงานรัฐบาล

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ให้สัมภาษณ์กรณีแนวคิดและการหารือกระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่ว่าตอนนี้ได้ปรึกษา ฝ่ายกฎหมายว่าสามารถให้คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยเข้ามาทำได้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือไม่ได้ใช้งบประมาณของแผ่นดิน ตนมองว่าควรจะใช้รายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศล ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำอยู่แล้ว จึงน่าจะเป็นไปในแนวทางนี้ แต่ก็ต้องศึกษาข้อกฎหมายก่อนว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจะเกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง กับกระทรวงเกษตรฯ ส่วนกรอบระยะเวลายังไม่แน่ชัด แต่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะบอร์ดการยางฯ จะหารือเรื่องนี้ต่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรียนว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ จะไม่ผ่านมือใคร แต่จะลงไปสู่พี่น้องชาวเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรง เพราะฉะนั้นเรื่องการคอรัปชั่นไม่มีช่องทางให้ทำ

เมื่อถามว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หมอนยางพาราประชารัฐกำหนดราคาที่ 600 บาทไม่แตกต่างจากราคาที่มีการจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เข้าใจว่าท่านคงเข้าใจข้อมูลผิด เรื่องนี้ต้องดูต้นทุน ในการผลิตหมอนยางพารา 1 ใบ ไม่ใช่ว่าเราจะกำหนดว่าขายในราคา 600 บาท 700 บาท ต้องดูที่ต้นทุนการผลิตก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ ถ้าเราไปซื้อชาวบ้านในราคาถูกมันก็ไม่เกิดประโยชน์ แล้วจะทำทำไม ซึ่งการซื้อในราคากิโลกรัมละ 65 บาท จำนวน 1.5 แสนตัน นั้นอย่างน้อยก็กระตุ้นราคาให้สูงขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทางส.ส.พรรคอนาคตใหม่ มองว่าเงินจำนวนนี้ถ้าหาได้ทำไมไม่เอาไปแจกให้กับเด็กจะได้ประโยชน์มากกว่า ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่เรากำลังจะทำนั้นเป็นการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เป้าหมายคือการทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น ดังนั้นถ้าเราไปทำเรื่องอื่น ก็ไม่ตรงกับที่กระทรวงเกษตรฯ กำกับดูแล ส่วนเรื่องเด็ก เรื่องผู้ด้อยโอกาสก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนที่ทวงติงว่าจะไม่เกิดประโยชน์เพราะมีการใช้น้ำยางพาราเพียงแค่ 1.5 แสนตัน นั้นก็เรียนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น อย่างน้อยก็เป็นแนวทางที่จะทำให้ราคายางดีขึ้น ไม่ใช่ 6 กิโลกรัม 100 บาท ส่วนจะมีการแจ้งความ กับส.ส.พรรคอนาคตใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ แต่สิ่งที่ตนจะทำคือการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านติงมา เป็นห่วงเป็นใยมา ก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะนำมาแก้ไข สิ่งสำคัญเรามองว่าการทำงานของฝ่ายค้าน เป็นกระจกเงาที่คอยเตือนพวกเราว่า อย่าทำอะไรนอกลู่นอกทาง หรือส่อไปในทางทุจริต