เทพไท ชมตั้ง ฉายารัฐบาล “รัฐเชียงกง” ดั่งศูนย์ขายอะไหล่ ใช้คนระบอบทักษิณมาเพียบ

วันที่ 24 ธันวาคม 2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งฉายารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า รัฐเชียงกง นั้น นับว่าเป็นฉายาที่ตั้งแล้วทำให้เห็นภาพ ศูนย์ขายอะไหล่เชียงกงจริง ๆ เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐมนตรีบางคนเคยร่วมกับรัฐบาลของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาก่อนหลายคน

นายเทพไท กล่าวต่อว่า จึงทำให้เห็นภาพองค์ประกอบของครม.ชุดรัฐบาลพ.อ.ประยุทธ์ เปรียบเสมือนการนำอะไหล่มือสองที่ซื้อจากศูนย์เชียงกงมาประกอบเป็นรถยนต์เพื่อนำมาใช้งาน เหมือนกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ในขณะนี้ ที่ใช้บุคคลที่เคยอยู่ในระบอบทักษิณมาก่อนไม่น้อยกว่า 20 คน นำมาเป็นรัฐมนตรี หรือใช้งานทางการเมืองในหลายตำแหน่ง เช่น ทีมงานของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯทั้งชุด, กลุ่มสามมิตรของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม

นายเทพไท กล่าวอีกว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ฯลฯ ยังไม่รวมถึง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็น อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย มาก่อน

“ส่วนฉายารัฐมนตรีคนอื่น ๆ นั้น ต้องขอชื่นชมว่าตั้งฉายาได้เฉียบคม สอดคล้องกับบุคลิกและการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละคนจริง ๆ การตั้งฉายาให้รัฐบาล หรือตั้งฉายาให้กับรัฐมนตรีนั้นเป็นประเพณีปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี ในสถานการณ์บ้านเมืองปกติ หรือเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สำหรับพล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่คุ้นเคยกับกับการตั้งฉายาแบบนี้ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร และเพิ่งมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เมื่อมาเจอกับการตั้งฉายาของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลในลักษณะเสียดสี แบบแสบ ๆ คัน ๆเช่นนี้ ก็อาจจะไม่สบอารมณ์ มีความรู้สึกหงุดหงิดบ้าง” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวว่า ก็ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าใจและทำใจ เพราะตำแหน่งนายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ ที่สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ เสียดสี เหน็บแนม หยอกล้อได้ เพราะตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือนักการเมืองคนหนึ่ง มีวิถีชีวิตเหมือนกับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยโดยทั่วไปทุกคน