ผบช.น.ปัดกลั่นแกล้งออกหมายเรียก”ธนาธร”กับพวกคดีแฟลชม็อบ

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับแกนนำทำกิจกรรมแฟลชม็อบ ท้องที่ สน.ปทุมวัน ว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับพวกรวม 5 คน เชื่อว่าได้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยคณะพนักงานสอบสวนจะทำการออกหมายเรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ฐาน”ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง, ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ, ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”ในวันที่ 27 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ที่สน.ปทุมวัน

สำหรับผู้เข้าร่วมชุมนุมรายอื่นซึ่งมีความผิดลักษณะเดียวกันอีก 3 ราย ประกอบด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคอนาคตใหม่ และอยู่ในระหว่างสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้การออกหมายเรียกผู้ต้องหานั้น ต้องขออนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก ประกอบกับระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ ผบ.ตร.หรือ รอง ผบ.ตร.เป็นผู้พิจารณาลงนามในหนังสือขออนุญาตหมายเรียก ขณะนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนได้ส่งหนังสือถึง ตร.เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการออกหมายเรียก ส.ส.ทั้ง 3 คน แต่ยังไม่มีความเห็นลงมา

ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินคดีกับ นายธนาธร และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่รวม 5 คน เป็นไปตามพยานหลักฐาน ว่าไปตามเนื้อ ไม่มีการกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน ส่วนข้อหาที่ดำเนินคดีแม้ไม่ใช่ข้อหาที่มีอัตราโทษสูง แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินคดีไปตามหน้าที่ส่วนจะมีการออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นให้เข้าพบตำรวจอีกหรือไม่นั้นขอให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก็อยากทำให้รอบครอบ โดยยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งใคร