กมธ.ข้องใจงบฯอบรม-ดูงาน ศาลรธน. เพิ่มขึ้นผิดปกติ เลขาฯแจงวุ่น ปมไร้เงินคืนคลัง

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวราเทพ รัตนากร รองประธานกมธ. คนที่ 4 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาถึงการเสนอของบประมาณของ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ วงเงินที่เสนอจัดสรร 281 ล้านบาท โดยนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เข้าชี้แจงต่อกมธ.

ทั้งนี้ กมธ. ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ เช่น โครงการอบรมและดูงาน รวมถึงท้วงติงต่อการจัดสรรเงินเดือนค่าตอบแทนให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีประเด็นว่าอาจขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง คือ นายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ. กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการจ่ายค่าตอบแทนให้กับนายชัช เพราะมีประเด็นเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระหว่างการสับเปลี่ยนตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนมองว่าเมื่อเป็นเหตุให้เปลี่ยนตำแหน่งประธาน อาจถือว่าต้องพ้นจากตำแหน่งตุลาการ อีกทั้งตนขอเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา โดยเฉพาะการแต่งตั้งนายชัช รวมถึงรายละเอียดวันที่การถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ขณะที่กมธ.รายอื่น ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้อบรม ซึ่งเสนอขอรวม 19.5 ล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ ปี 2562 พบการใช้งบฯเพียง 7.4 ล้านบาทเท่านั้น รวมถึงงบฯที่จัดสรรไว้ เพื่อโครงการวิจัยและพัฒนาวิชาการรัฐธรรมนูญ โดยมีภารกิจเพื่อประชาสัมพันธ์ในการให้ข้อมูลข่าวสารของศาลกับประชาชน วงเงิน 6 ล้านบาท ที่ระบุว่าไม่สามารถวัดผลได้ โดยเฉพาะการทำประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน ที่เป็นเพียงเอกสารข่าวแจก ที่ไม่มีหลักการการเขียนรายละเอียดที่ชัดเจน

นายเชาวนะ ชี้แจงต่องบฯเพื่อใช้อบรมในหลักสูตรของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและเรื่องรัฐธรรมนูญให้กับผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เช่น ตำรวจ อัยการ ทหาร ซึ่งกำหนดให้จำนวนคนเข้าอบรมปีละ 52 คน โดยงบฯดังกล่าวเพื่อเดินทางเพื่อศึกษาตามหลักสูตร คือจำนวน 2 ครั้งต่อหลักสูตร โดยตัวเลขที่ไม่เท่ากันนั้นเป็นเพราะต้องพิจารณาถึงระยะทาง, ค่าเงิน อีกทั้งบางปีที่ใช้งบฯจำนวนน้อย เนื่องจากต้องคำนึงถึงประเทศเจ้าภาพที่เชิญว่าจะตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อสำนักงานหรือไม่ ส่วนการจัดสรรค่าตอบแทนให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ยังได้ซักถามถึงการเงินนอกงบประมาณ และเงินที่ไม่เหลือจ่ายในแต่ละปี ซึ่งเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องใช้งบฯที่จัดสรรในโครงการต่างๆ ให้หมดภายในปีงบประมาณ เนื่องจากสำนักงบประมาณเคยระบุว่า หากโครงการใดที่ใช้เงินไม่บรรลุ 100 เปอร์เซ็นต์จะไม่จัดสรรให้อีก ดังนั้น ทำให้ไม่มีเงินค้าง

นายเชาวนะ กล่าวว่า ขณะที่ประเด็นการทำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่หลายคนตั้งข้อสังเกตคดีการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯ นั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเป็นที่สุดแล้ว ว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง ครม. และพระมหากษัตริย์ ไม่มีองค์กรใดที่จะตรวจสอบได้ ดังนั้น ไม่มีประเด็นใดต้องตกค้างอีก