เผยแพร่ |
---|
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า สหรัฐกับจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากันแล้ว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตข้อความในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า สหรัฐใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่กับจีนแล้ว
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนม.ค.ปรับขึ้น 42 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 59.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 48 เซนต์ สู่ 64.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวกล่าวว่า สหรัฐกับจีนได้บรรลุข้อตกลงการค้าขั้นแรกในส่วนของหลักการแล้ว และเป็นที่คาดกันว่าทำเนียบขาวจะออกแถลงการณ์ในเร็วๆนี้ ทางด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้กล่าวต่อวุฒิสมาชิกสหรัฐว่า สหรัฐอาจจะประกาศข่าวเกี่ยวกับภาษีนำเข้าในเร็วๆนี้ ในขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูว่า สหรัฐจะเลื่อนกำหนดการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่จากสินค้าจีนออกไปหรือไม่ จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบในคลังทั่วโลกอาจพุ่งขึ้นสูงมาก ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับชาติพันธมิตรเพิ่งบรรลุข้อตกลงกันในสัปดาห์ที่แล้วในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงไปอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาส 1/2020 ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานรายเดือนว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังทั่วโลกอาจพุ่งขึ้น 700,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาส 1/2020 ถึงแม้ IEA คาดว่าประเทศนอกโอเปกอาจผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2020 โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม 200,000 บาร์เรลต่อวัน “เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง, มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตของบราซิลและกานา และประเทศที่เป็นพันธมิตรกับโอเปกจะปรับลดการผลิตน้ำมันลงไปอีก”
IEA คาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกกับชาติพันธมิตร (หรือ “โอเปก+”) จะอยู่สูงกว่าอุปสงค์ในน้ำมันดิบโอเปก+ ราว 700,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 และอยู่สูงกว่าอุปสงค์ราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี 2020