ส.ทนายความฯ ออกโรง ซัด กกต.มั่วข้อกม. เงินกู้ยืมไม่ใช่เงินผิดกม. ทุกอย่างเปิดเผยชัดเจน

นายกสมาคมทนาย ซัด กกต.มั่วข้อกฎหมาย มติยุบพรรค อนค. ชี้ม.72 พรป.พรรคการเมือง เป็นเรื่องเงินไม่ชอบด้วยกฎหมายอุดหนุนพรรคการเมือง ไม่ใช่เงินกู้เเบบเปิดเผยที่เป็นหนี้สิน

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นาย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์  นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นข้อกฎหมาย ผ่านเฟซบุ๊ก สมาคมทนายความเเห่งประเทศไทย กรณี กกต. มีมติเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เสนอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการที่กู้ยืมเงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้าน มีข้อความว่า

การยุบพรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหตุตาม มาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

มติ กกต. เสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เสนอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้าน โดยอ้างอิงมาตรา 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง

โดยส่วนตัวผม ยังคงมีความเห็นขัดและแย้งกับ กกต.ที่นำ มาตรา 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาใช้ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก มาตรา 72 มีสาระสำคัญและเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือ เรื่องเงินบริจาคที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เรียกตามภาษาชาวบ้านก็คือ “เงินผิดกฎหมาย” ที่รับเอามาอุดหนุนพรรคการเมือง ซึ่งตรงกันข้ามกับเงินกู้ยืมจากนายธนาธร ที่ถือเป็นหนี้สินของพรรค ไม่ใช่รายได้อย่างแน่นอน ประกอบกับการกู้ยืมเงินเปิดเผย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีกำหนดวันใช้คืนตามสัญญา มิได้มีเจตนาการซ่อนเร้นที่จะดำเนินการไปในทางทุจริต และไม่มีเหตุควรสงสัยถึงเหตุที่มาของเงินนั้น และที่สำคัญก็ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดห้ามในเรื่องนี้ไว้แต่อย่างใด

จึงจะเห็นได้ว่า การลงมติของ กกต.มีข้อพิรุธและไม่ปกติที่พยายามเชื่อมโยง การกู้ยืมเงินครั้งนี้ ให้เข้าไปเป็นความผิดตาม มาตรา 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และใช้เป็นเหตุในการเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผมในฐานะนักกฎหมายและทนายความ ก็พยายามทำความเข้าใจโดยอ่านหลาย ๆ เที่ยวซ้ำไปซ้ำมา ก็ยังมีความเห็นว่า มันเป็นคนละเรื่องกัน และ “มติ กกต.ก็ดูมั่ว ๆ ชอบกลนะครับ หรือมีความพยายามจะพาไปให้ถึงจุดนั้น”