“จุรินทร์”มอบนโยบายพาณิชย์ปี63 ยึด3หลัก “ประกันรายได้-โรดโชว์-เอฟทีเอ”

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมหารือกับปลัดกระทรวงพาณิชย์และผู้บริหาระดับสูง ว่า เป็นการหารือเพื่อเตรียมการกำหนดแผนปี 2563 โดยเน้นใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกร จะดำเนินต่อเนื่องจากปี 2562 ซึ่งได้จัดทำประกันรายได้ในพืช 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือก ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มจ่ายเงินส่วนต่างเงินประกันรายได้แล้วในพืช 4 ชนิด รวมวงเงินประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 11 ธันวาคม จะนำหลักเกณฑ์การประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่้อเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกวันที่ 20 ธันวาคมนี้

สำหรับการจ่ายประกันรายได้ข้าวเปลือกในงวดต่อไป(งวด5) ในส่วนของข้าวเปลือกหอมมะลิจะได้ส่วนต่างตันละกว่า 500 บาท ข้าวเปลือกหอมนอกพื้นที่จะได้ส่วนต่างตันละกว่า 400 บาท ขณะนี้ยางพาราติดความล่าช้าในเรื่องการตรวจสอบ ตอนนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ปรับวิธีการตรวจสอบใหม่ โดยให้เจ้าของสวนแจ้งชนิดยางและจำนวนพื้นที่โดยมีกำนันหมู่บ้านเป็นผู้รับรองแล้วส่งให้กยท.ประสานธนาคารเพพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จ่ายเงินให้เกษตรกรต่อไป ทั้งปีหน้าประกันรายได้เกษตรกรจะทำคู่ขนานกับมาตรการเสริม เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวที่ยังมีผลผลิตรอการเก็บเกี่ยว 30% และให้เตรียมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า ซึ่งขณะนี้พบว่ามีข้าวโพดลักลอบนำเข้าตามชายแดนมากซึ่งได้ประสานให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลสกัดการลักลอบ สำหรับมาตรการขนานรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกนั้น จะนำเสนอครม.ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ เป็นการช่วยเหลือต้นทุนเกษตรกรและผู้ค้าเพื่อชะลอการขาย ตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าว(นบข.)เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่้ 6 ธันวาคม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า 2. เร่งรัดการส่งออกในปี 2563 ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทำตัวเลขเป้าหมายในปี 2563 คาดว่าจะชัดเจนในปลายปีนี้ ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกได้เตรียมจัดคณะตัวแทนรัฐและเอกชนไปเปิดตลาดเป้าหมาย 16 ประเทศ คือ อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ฮ่องกง จีน เวียดนาม ฝรั่งเศส อังกฤษ ตะวันออกกลาง รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ติมอร์-เลสเต เกาหลีใต้ บังคลาเทศ มัลดีฟส์ และกัมพูชา พร้อมกับ 3. เร่งรัดการทำเอฟทีเอกับประเทศเป้าหมายคงค้างและเป้าหมายใหม่ อาทิ ไทย-ตุรกี ไทย-ปากีสถาน ไทย-ศรีลังกา ไทย-แอฟริกาใต้ ไทย-แอฟต้า

” ได้เสริมให้ทำเอฟทีเอรายมณฑลหรือรายรัฐด้วยในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และประชากรมาก โดยเฉพาะจีน อินเดีย ให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ไปศึกษาว่าทำการศึกษาเปิดเสรีแบบใดได้บ้าง ” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนในเทศกาลปีใหม่นี้ ในวันที่ 13 ธันวาคมจะเปิดตัวโครงการพาณิชย์ลดปังข้ามปี นิวเยียร์แกรนด์เซลล์ เริ่มวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ถึง 12 มกราคม 2563 นอกจากนี้จะมีการขยายเวลาการให้บริการต่างๆของแต่ละหน่สยงานในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์