‘อัจฉริยะ’ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบ 21 ส.ส. 5 ส.ว. 4 ขรก.ระดับสูงถือครองที่ดิน ส.ป.ก.มิชอบ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบก.ปทส. ให้ตรวจสอบนักการเมือง ทั้ง ส.ส., ส.ว.ที่ถือครองพื้นที่ป่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายอัจฉริยะกล่าวว่า ต้องการให้สืบสวนข้อเท็จจริงต่อ 21 ส.ส. 5 ส.ว. และ 4 พลเรือน ที่ครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 และ ส.ป.ก. 4-01 ว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งนักการเมืองที่ตนมาร้องนั้นมีทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ เป็นต้น และบุคคลหนึ่งในนั้นคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครอบครองพื้นที่ ภ.บ.ท. 5 จำนวน 120 ไร่ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีนักการเมืองบางคนครอบครองพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ ส.ป.ก.กว่า 300 ไร่

ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่าการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นั้นไม่สามารถเอาผิดได้ ตนมองว่าเป็นการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของอัยการและศาล ซึ่งไม่มีสิทธิทำได้ โดยตนยืนยันว่าคดีครอบครองที่ ส.ป.ก.นั้นเป็นความผิดทางอาญาไม่สามารถยอมความได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีฎีกาในลักษณะนี้ปรากฏให้เห็น ทั้งยังสั่งดำเนินคดีกับทุกคนที่บุกรุกพื้นที่ป่า แต่เหตุใด น.ส.ปารีณาถึงไม่ถูกดำเนินคดี แม้จะคืนที่ดินก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้ง น.ส.ปารีณายังไม่ใช่เกษตรกร จึงไม่คุณสมบัติ ขนาดชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรยังมีสิทธิครอบครองแค่ 50 ไร่เท่านั้น

นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ จะเดินทางไปจังหวัดราชบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับข้าราชการทุกคนตั้งแต่เลขาธิการ ส.ป.ก.จังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ในฐานความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่างๆ ในที่ดินของ น.ส.ปารีณา

ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ได้รับเรื่องเพื่อไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยในเรื่องข้อมูลเอกสารจะติดต่อนายอัจฉริยะมาให้ปากคำเพิ่มเติม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อ 21 ส.ส. 5 ส.ว. และ 4 พลเรือน ที่ให้ตรวจสอบประกอบด้วย 1.นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ 2.นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ 3.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ 4.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ 5.น.ส.พิมพ์พร พฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ 6.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ 7.นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคอนาคตใหม่ 8.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ 9.นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย 10.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ 11.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 12.นายมานพ ศรีผึ้ง ส.ส.นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย 13.นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย และภรรยา 14.นายสฤษดิ์ บุตรเนียร พรรคภูมิใจไทย 15.นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง และภรรยา พรรคภูมิใจไทย 16.นายสนอง เทพอักษรณรงค์ และภรรยา พรรคภูมิใจไทย 17.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พรรคเพื่อไทย 18.นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีตผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี พรรคพลังประชารัฐ 19.นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ พรรคเพื่อไทย 20.นายสุชาติ ภิญโญ พรรคเพื่อไทย และ 21.นายสงวน พงษ์มณี พรรคเพื่อไทย

ส่วน ส.ว.ได้แก่ 1.พล.อ.สราวุฒิ ชลออยู่ และภรรยา 2.ว่าที่ร้อยตรี วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี 3.นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ และภรรยา 4.นายธานี สุโชดายน และ 5.พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป

สำหรับ 4 พลเรือน เป็นข้าราชการระดับสูง ได้แก่ 1.นางวันเพ็ญ จันทะสงเคราะห์ 2.นางใบ จันทร์ขุม 3.นายสมัย จันทะสงเคราะห์ และ 4.นางจิตต์ ประสงค์ นาน่อง