ปีใหม่ ผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยเข้มจับตาอย่าให้ฉวยขนยาบิ๊กล็อตเข้าเมืองใหญ่ทุกรูปแบบ

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงมาตรการเฝ้าระวังขบวนการลักลอบขนย้ายยาเสพติด ห้วงหยุดยาวเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2563 ซึ่งขบวนการยาเสพติดอาจฉวยโอกาสกระทำความผิด ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในเรื่องดังกล่าวจึงได้กำชับให้ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จับตาความเคลื่อนไหวเครือข่ายยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่เตรียมทยอยเคลื่อนย้ายยาเสพติดล็อตใหญ่จากแหล่งพักคอยภายนอกเข้าในประเทศและกระจายออกสู่ชุมชนเมืองใหญ่ในรูปแบบต่างๆ โดยให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ไม่ปล่อยปละละเลย ให้คุมเข้มสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายยาเสพติดและสารตั้งต้นในพื้นที่ชายแดน และประสานกับทุกด่านศุลกากร ตรวจเข้มสินค้าและการผ่านแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ชั้นใน ตำรวจและฝ่ายปกครอง ประสานการทำงานร่วมกับ ป.ป.ส.และกระทรวงสาธารณสุข กวดขันกวาดล้างยาเสพติดและนำผู้เสพมาบำบัดควบคู่กันไป

ทั้งนี้ผบ.ตร. ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล จึงได้สั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ยกระดับการปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ รวมไปถึงเร่งรัด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า โดยให้กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กองบังคับการตำรวจทางหลวง บูรณาการทางด้านการข่าว เฝ้าระวัง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดน หรือ พื้นที่ชั้นนอก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาส ลักลอบ ลำเลียงยาเสพติดและสารตั้งต้นเข้าไปพื้นที่ ชั้นกลาง ชั้นใน หรือแหล่งชุมชน , เมือง

พร้อมสั่งการให้ กองบัญชาการนครบาล , ภูธรภาค 1 – 9 มุ่งเน้นการปราบปรามจับกุม ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติด ทั้งรายใหญ่และรายย่อยในทุกระดับชั้น โดยให้ซักถาม สืบสวนขยายผล ไปถึง แหล่งเงินทุน นายทุน เครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการบูรณาการกำลังกับทุกภาค อาทิ ทหาร ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส. ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพิ่มมาตรการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ในการตรวจคัดกรองยานพาหนะต่างๆ บุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มงวด ตลอดจนเพิ่มมาตรการ การกวาดล้าง ปราบปราม ยาเสพติด ในแหล่ง หมู่บ้าน ชุมชน โดยความร่วมมือและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าระวัง ผู้เสพยาเสพติดในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งต่อกระบวนการบำบัดฟื้นฟู

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในห้วงที่ผ่านมาสำหรับไตรมาศแรกของปีงบประมาณ 2563 ผบ.ตร.ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยตำรวจที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ตามแนวตะเขบชายแดน และจุดเส้นทางลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย อาทิเช่น พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อมอบนโยบาย บำรุงขวัญ และสนับสนุนยุทโธปกรณ์ เครื่องมือในการปฎิบัติหน้าที่ ในการสกัดกั้นปราบปรามขบวนการยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมมีการคาดโทษกับ ผกก. หรือ หัวหน้าหน่วยหากปล่อยปละละเลย เกิดความบกพร่องโดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงไปกำกับดูแล กวดขันในการปฎบัติหน้าที่และความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ

อีกทั้ง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปเยือนมิตรประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวชายแดนติดกับประเทศไทย เพื่อแสวงหาความร่วมมือแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชั้นกลาง และชั้นในจะไม่ยอมให้ยาเสพติดทะลักเข้ามาอย่างเด็ดขาด
ประกอบกับให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ดำเนินการสร้างช่องทางการรับรู้ในพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในสถานบริการและแหล่งมั่วสุมในกรุงเทพมหานครและทุกพื้นที่ทั่วประเทศ บ้านเช่าหรือห้องพัก ดัดแปลงชั่วคราวเป็นสถานบริการ จัดปาร์ตี้มั่วสุม ให้ ผกก. หรือ หัวหน้าหน่วยในทุกพื้นที่ หาแนวทางป้องกันยาเสพติดออกจากเด็กและเยาวชนในพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งจัดอบรมให้ความรู้ถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด โดยให้ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ลงพื้นที่สุ่มเสี่ยง แหล่งที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด อย่างใกล้ชิด เพื่อการป้องปรามอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมบูรณาการกำลังกับทหาร ฝ่ายปกครอง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในข้อมูลทางด้านการข่าวข้อมูลยาเสพติด ตลอดจนปัญหาอาชญากรรมต่างๆ เพื่อสร้างเกราะป้องกัน ในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ชุมชน สังคม รวมไปถึงการกระทำต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติด อาชญากรรมทุรูปแบบอย่างจริงจัง