“อนาคตใหม่” แจงโต้ กกต. ปมเงินกู้พรรค ชี้ส่อมีธง ตัดพยานทั้งที่ยังไม่เริ่มสอบสวน

วันที่ 6 ธันวาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ระบุถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถส่งเอกสารหลักฐานการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ที่ประชุม กกต. เห็นว่า เอกสารที่ กกต. ให้พรรคอนาคตใหม่ ส่งภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 เป็นเอกสารที่มีอยู่ในครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว และถือเป็นประโยชน์ของพรรคอนาคตใหม่ที่จะยืนยันให้ กกต.เชื่อว่ามีการกู้เงินจริง เมื่อพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ถือเป็นผลเสียต่อพรรคอนาคตใหม่เอง ดังนั้น กกต.จึงมีมติตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และ กกต.จะพิจารณาเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนนั้น พรรคอนาคตใหม่ขอโต้แย้งดังนี้

1. กกต. ได้ออกหมายเรียกพยานเอกสารจำนวนหลายรายการ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา และพรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งพยานเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินให้แก่ กกต. ทั้งสิ้นแล้ว อันได้แก่ สัญญากู้เงิน และหลักฐานการชำระหนี้เงินกู้ เอกสารเหล่านี้ เป็นหลักฐานสำคัญว่ามีการชำระหนี้เงินกู้จริง ซึ่งชำระเข้าบัญชีธนาคารของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 เป็นต้นมา

2. เอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ยังมิได้จัดส่งให้ กกต. นั้น ล้วนเป็นเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินทั้งสิ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า กกต. ได้เรียกเอกสารทั้งปวงโดยที่ กกต. ก็ไม่รู้ว่า จะนำเอกสารดังกล่าวไปดูในประเด็นอะไร จึงมีหมายเรียกเอกสารทางการเงินในลักษณะกวาดกองเอกสารทั้งปวงที่พรป.พรรคการเมือง กำหนดให้พรรคการเมืองจัดทำขึ้นและรายงานต่อ กกต. ปีละครั้งภายในเดือนเมษายนของปีปฏิทินถัดไป เป็นเอกสารตามหมายเรียก อันได้แก่

ก. บัญชีรายวันและแสดงรายได้หรือรายรับและแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย
ข. บัญชีแสดงรายรับจากการบริจาค
ค. บัญชีแยกประเภท
ง. บัญชีแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน

กกต.เรียกเอกสารดังกล่าวของวันที่ 1 มกราคม 2562 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 โดยทำเป็นสำเนาและลงลายมือชื่อรับรองสำเนาเอกสารทุกหน้า

พรรคอนาคตใหม่ขอเรียนว่า ตามวิสัยและพฤติการณ์ กกต.เรียกให้ส่งเอกสารดังกล่าว โดยไม่คาดหมายว่า จะใช้ประโยชน์จากเอกสารดังกล่าวจริง และไม่คาดหมายว่า พรรคอนาคตใหม่จะส่งเอกสารให้แก่ กกต. ได้ทันหรือไม่ เพราะ กกต. กำหนดระยะเวลาส่งเอกสารสั้นอย่างยิ่ง กล่าวคือ สั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 และกำหนดให้ส่งเอกสารภายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 และต่อมา เมื่อพรรคอนาคตใหม่แจ้งส่งเอกสารบางรายการและผัดส่งเอกสารบางรายการ กกต.ก็ขยายระยะเวลาให้ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ทั้ง ๆ ที่ทราบดีอยู่แล้วว่า เอกสารดังกล่าวจะจัดส่งให้ กกต.ได้ พรรคอนาคตใหม่จะต้องได้รับการตรวจรับรองความถูกต้องจาก “ผู้ตรวจบัญชี” เสียก่อน ซึ่งมีกำหนดตรวจปีละหนึ่งครั้ง ก่อนส่งยื่นบัญชีประจำปีให้แก่ กกต.

การที่ กกต. เร่งรัดเอกสารดังกล่าว โดยไม่นำพาว่า จำนวนปริมาณของเอกสารที่ต่อให้สำเนาทั้งวันทั้งคืน และลงลายมือชื่อทั้งวันทั้งคืน ก็ไม่อาจจัดสำเนาได้ทันระยะเวลาที่กำหนด (ย้ำว่า “สำเนาเอกสาร“) กล่าวได้ว่า เอกสารทั้งสี่รายการแต่ละเดือน เทียบกับปีที่ผ่านมา เมื่อบรรจุลงแฟ้มความจุขนาดสันหนา 3 นิ้ว ข้อมูลเอกสารดังกล่าวจะมีจำนวนประมาณ 10 แฟ้มต่อหนึ่งเดือน จะเห็นได้ว่า กกต.แสร้งเรียกเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ต้องจัดทำส่งให้ กกต อยู่แล้ว ในแต่ละปีภายในเดือนเมษายนของปีปฏิทินถัดไป โดยสร้างภาระให้พรรคอนาคตใหม่จัดทำบัญชีรายการดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 จึงแสดงให้ตั้งเป็นปัญหาได้ว่า เป็นการใช้อำนาจโดยสุจริตหรือไม่

3. การที่ กกต. ไม่วินิจฉัยว่า การกู้ยืมเงิน และมีการชำระหนี้เงินกู้กันจริง ตามเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งให้ กกต.แล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ในทางตรงข้าม กกต. กลับเรียกเอกสารบัญชีของพรรคอนาคตใหม่ โดยไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการกู้ยืมเงินกู้ และโดยที่ กกต. ยังไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาต่อพรรคอนาคตใหม่ หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเรื่องนี้

ฉะนั้น การตัดพยานของผู้ถูกกล่าวหา สามารถกระทำได้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่คดีนี้ยังไม่เริ่มการสอบสวนแต่อย่างใด ยังไม่มีผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหาแต่อย่างใด พรรคอนาคตใหม่ขอตั้งข้อสังเกตว่า จากเนื้อข่าวของที่ประชุม กกต ดังกล่าว ส่อธงคำตอบบางประการของ กกต. หรือไม่ อย่างไร และการอาศัยช่องว่างของกระบวนการสืบสวนเรียกพยานเอกสารในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อบุคคลที่จะถูกกล่าวหา เช่นนี้ ชอบธรรมเพียงใด และเป็นการตัดสิทธิให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองของผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่

ในท้ายนี้ พรรคอนาคตใหม่ขอสงวนสิทธิดำเนินการทางกฎหมายในกรณีที่พบว่า มีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบต่อเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุดทั้งทางแพ่งและอาญา