สัญญาณอันตราย ‘ภาคการเงินจีน’ รัฐวิสาหกิจเบี้ยวหนี้พุ่ง 3 เท่า

People walk past a branch of Baoshang Bank in Beijing, China September 24, 2019. Picture taken September 24, 2019. REUTERS/Stringer ATTENTION EDITORS - THIS IMAGE WAS PROVIDED BY A THIRD PARTY. CHINA OUT.

จีนมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากสงครามการค้า ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ นอกจากนี้ยังเผชิญกับแรงกดดันภายในประเทศจากภาระหนี้ของบริษัทรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ท้าทายยิ่งกว่าปัจจัยภายนอก และอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ

บริษัทรัฐวิสาหกิจจีนเริ่มผิดชำระหนี้ครั้งแรกในปี 2014 สาเหตุจากขาดประสิทธิภาพในการแข่งขัน ปัจจุบันการผิดชำระหนี้ของบริษัทรัฐวิสาหกิจจีนเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น “บลูมเบิร์ก” รายงานว่า ล่าสุด “เทวู กรุ๊ป” (Tewoo Group) บริษัทรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลมณฑลเทียนจิน ซึ่งประกอบธุรกิจหลากหลาย เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ ประกาศว่าบริษัทไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มีกำหนดชำระเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการผิดนัดชำระหนี้จากหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

นอกจากนี้พบว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2019 มีการผิดชำระหุ้นกู้ถึง 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3 เท่า และเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปัจจุบันจีนมีหนี้สินมหาศาล โดยรายงานสำรวจภาวะหนี้จากทั่วโลก ปี 2019 ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) ระบุว่า จีนมีสัดส่วนหนี้ทั้งหมด 303% ต่อจีดีพี คิดเป็นเม็ดเงินถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15% ของหนี้สินทั่วโลก