เมื่อวานนี้ (4 ธันวาคม 2562) ซีเอ็นเอ็น และเอพี รายงานบรรยากาศการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ วาระครบรอบการก่อตั้ง 70 ปี ที่ประเทศอังกฤษ ว่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ทำให้เวทีกลุ่มประเทศที่มีบทบาทด้านความมั่นคงระดับโลกกลายเป็นเวทีดราม่า ด้วยการแสดงออกถึงบุคลิกส่วนตัวและนโยบายที่ไม่ลงให้ใคร แม้แต่พันธมิตร

นายทรัมป์เรียกนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีหนุ่มของแคนาดา ว่า ตีสองหน้า หลังจากปรากฏภาพนายทรูโดร่วมวงกับผู้นำชาติอื่นๆ ปล่อยมุขอำนินทานายทรัมป์ ต่อเนื่องจากที่นายทรัมป์เพิ่งตำหนินายเอ็มมานูเอล มาครง ว่าสามหาว กรณีประธานาธิบดีฝรั่งเศสวิจารณ์บทบาทของสหรัฐต่อนาโต้ จนทำให้องค์กรอยู่ในสภาพเหมือนสมองตาย

ไม่เท่านั้น นายทรัมป์ยังตอกย้ำความแตกแยกกับชาติพันธมิตรนาโต้เรื่องงบประมาณการทหาร ที่บีบให้เกิดข้อตกลงว่าทุกชาติต้องควักกระเป๋าให้นาโต้ในอัตราร้อยละ 2 ของจีดีพี รวมถึงไม่สนชาติยุโรปที่ต้องการตำหนิตุรกี กรณียกทัพเข้าไปปราบปรามนักรบชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของซีเรีย

รวมแล้ว 52 ชั่วโมงที่นายทรัมป์เข้าร่วมเวทีการประชุม และควรฉลองความเป็นหนึ่งเดียวของนาโต้ ในวาระครบรอบ 70 ปี เพื่อสร้างผลงานด้านนโยบายการต่างประเทศไว้หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า กลายเป็นเรื่องบรรยากาศวงแตก

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นดราม่าในพระราชวังบักกิงแฮม เมื่อค่ำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ขณะนายทรัมป์พานางเมลาเนีย ภริยา เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ มีภาพจับจังหวะที่ควีนทรงเรียกเจ้าหญิงแอนน์ พระธิดา ที่ประทับอยู่ด้านข้างฝั่งประตูห้อง ให้ทรงเข้ามาร่วมทักทายนายทรัมป์ แต่เจ้าหญิงแอนน์ทรงปฏิเสธ ขอประทับอยู่ที่เดิม

รายงานข่าวดังกล่าว ทำให้เกิดแฮชแท็ก #PrincessAnne ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่ง พร้อมกับคอมเมนต์มากมายให้ทวิตเตอร์  จากนั้นคืนวันพุธ เจ้าหญิงแอนน์ทรงต้อนรับผู้นำชาติอื่นๆ ของนาโต้ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และทรงอยู่ในวงล้อมผู้นำ ได้แก่ นายบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ นายมาร์ก รุตเทอ ของเนเธอร์แลนด์ นายมาครง และนายทรูโด ที่จับกลุ่มกันเม้าธ์นายทรัมป์ 

คลิปความยาว 25 วินาที ที่ซีบีซี สื่อแคนาดา รายงาน ถอดคำพูดผู้นำว่า นายจอห์นสันถามนายมาครงว่า “ทำไมมาสายล่ะครับ” นายทรูโดแซวว่า “เขามาสายก็เพราะไปแถลงข่าว 40 นาที” ก่อนต่อด้วยประโยคว่า “คุณเห็นหรือเปล่าล่ะ ทีมงานอ้าปากค้างกันถึงพื้นเลยน่ะ”

หลังจากเป็นข่าว นายทรูโดยอมรับว่าจังหวะดังกล่าว ตนเองและผู้นำชาติอื่นๆ ในวงพูดถึงนายทรัมป์จริง เป็นการแถลงข่าวแบบไม่ได้นัดล่วงหน้า ก่อนตนจะพบกับนายทรัมป์ ส่วนที่นายทรัมป์เรียกนายทรูโดว่า ตีสองหน้า ผู้นำแคนาดา กล่าวว่าไม่ได้วิตกว่าความเห็นของตนจะไปกระทบความสัมพันธ์ของสองประเทศ