เมื่อวานนี้ (4 ธันวาคม 2562) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อเร่งรัดตัวเลขภาคการส่งออกไทย ในช่วงปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 โดยหลังจากที่กระทรวงฯได้นำภาคเอกชนผู้ส่งออกไทย เปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ในหลายประเทศ ซึ่งตัวเลขการทำเอ็มโอยู่ล่าสุดอยู่ที่ 35 ฉบับ วงเงินกว่า 44,722 ล้านบาท รวมถึงได้ทำกิจกรรมจับคู่ในการทำธุรกิจกว่า 26,244 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกันจะเป็นเม็ดเงินกว่า 70,967 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อีกส่วนเป็นการเร่งรัดนอกเอ็มโอยู เพื่อให้เกิดการเร่งส่งมอบสินค้าในช่วงเดือนธันวาคม 2562

“ผลการหารือเบื้องต้นพบว่า สภาหอการค้าฯ และส.อ.ท. ได้เตรียมที่จะเรียกประชุมผู้ส่งออกสินค้าไทยรายใหญ่ ที่จะมีผลต่อตัวเลขการส่งออกรวมของไทยในภาพรวม ให้ช่วยดำเนินการเร่งรัดการส่งมอบ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ จนถึงเดือนมกราคม 2563 ให้มีผลเร็วขึ้น ซึ่งภายในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ก็จะได้รับคำตอบว่า เฉพาะในเดือนธันวาคม จะช่วยเร่งการส่งมอบเพิ่มเติมได้จากตัวเลขปกติมากน้อยเท่าใด และในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2563 ตัวเลขการส่งออกจะเป็นอย่างไรต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่าภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือกัน ในการเร่งนำเงินรายได้เข้าประเทศให้เร็วที่สุด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว”นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวว่า ถือว่าสำหรับเดือนธันวาคมนี้ ถึงเดือนมกราคม 2563 ยังมีโอกาสที่จะเร่งรัดการส่งมอบในสินค้าหลายรายการได้ อาทิ ยางพารา ที่เอกชนได้ทำสัญญาไว้กับประเทศอินเดียและตุรกี ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเร่งรัดการส่งออกในเดือนธันวาคมนี้ จากเดิมที่จะส่งมอบให้ 2,800 ตัน ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ตัน อีกทั้งการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ได้ทำเอ็มโอยูกับคู่ค้า ก็จะมีการส่งมอบยางในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 เดือนธันวาคม ประมาณ 5,000 ตัน ส่วนข้าวจะมีการเร่งรัดให้บางบริษัทส่งมอบ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ กว่า 1,500 ตัน บวกกับการทำสัญญากับบริษัทของประเทศตุรกี ซึ่งจะต้องส่งมอบข้าวกว่า 3,000 ตัน โดยจะแบ่งส่งทันทีในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ 1,000 ตัน และมอบในเดือนมกราคม 2563 อีก 1,000 ตัน ส่วนอีก 1,000 ตัน จะส่งให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ด้านมันสำปะหลัง เห็นมีตัวเลขการสัญญาซื้อขายแล้ว แต่ปัญหาขณะนี้คือ ยังไม่มีของส่ง ทำให้ต้องรอในช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 ซึ่งจะเป็นฤดูกาลของผลผลิตรอบใหม่

“การส่งออกไก่ของบริษัทซีพีเอฟ ที่ปกติจะส่งไก่เดือนละ 40,000 ตัน แต่ขณะนี้รับปากแล้วว่า เฉพาะในเดือนธันวาคม 2562 นี้ จะช่วยเร่งส่งออกเพิ่มอีก 10,000 ตัน ทั้งในรูปของไก่สดและไก่แปรรูป ส่วนน้ำมันโดยเฉพาะของบริษัท ปตท. ในปี 2563 มีเป้าหมายว่า จะส่งเสริมการใช้น้ำมันทดแทนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันส่วนเกิน ที่สามารถจะส่งออกได้มากขึ้น จึงคาดว่าตัวเลขการส่งออกน้ำมันในปี 2563 ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย โดยเชื่อว่าการเร่งรัดส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าว จะมีส่วนในการเพิ่มตัวเลขของเดือนธันวาคมนี้ให้ปรับเพิ่มมากขึ้น แต่จะทำตัวเลขได้ที่เท่าใด มูลค่าเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าใด ยังไม่สามารถบอกว่า แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่”