พ่อปารีณาบุกสภา ลั่น หากรุกป่าผิดจริง พร้อมฆ่าตัวตาย ก่อนขอถอนคำพูด

พ่อปารีณาบุกสภา ขอความเป็นธรรมสื่อ ยัน ไม่ได้เป็นกุ๊ยแย่งไมค์อธิบดีกรมป่าไม้ เหน็บ 2 อดีตนายกฯ ลั่น หากคดีรุกป่าผิดจริงพร้อมฆ่าตัวตาย ก่อนขอถอนคำพูด

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาเพื่อขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมแย่งไมโครโฟนจากมือของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ที่อยู่ระหว่างแถลงรายละเอียดการบุกรุกที่ป่าของ น.ส.ปารีณา ใน จ.ราชบุรี แต่เป็นเพียงการซักถามในประเด็นรายละเอียดของที่ดินที่แถลงเท่านั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนที่ตนไปร่วมเวทีแถลงดังกล่าวเพราะมีสื่อมวลชนร้องขอให้ตนไปชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนั้น พฤติกรรมที่สื่อมวลชนเขียนถึงนั้น ตนยืนยันด้วยความเป็นอดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรีว่า ตนไม่ใช่กุ๊ย และไม่มีเจตนา ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความเอาผิดตนและ น.ส.ปารีณา กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นั้น ตนจะเดินทางไปยัง บก.ปทส.เพื่อรายงานตัว และพร้อมจะตอบในทุกคำถาม

“ในคดีนี้หากตรวจสอบว่าผมผิดและต้องติดคุก ผมพร้อมจะฆ่าตัวตาย เพราะผมรักศักดิ์ศรีของผม และเรื่องนี้ผมพร้อมต่อสู้คดีจะไม่หนีคดีเหมือนอย่างอดีตนายกฯ 2 คนก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ การกล่าวหาว่าผมบุกรุกที่ดินถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายที่สุดในชีวิตของผม” นายทวีกล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่ระบุว่าจะฆ่าตัวตายหากพิพากษาให้ผิดถือว่ากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายทวีกล่าวขึ้นว่า “งั้นผมขอยกเลิกที่พูดไปว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ผมยืนยันว่ารักศักดิ์ศรีของผม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายทวีแถลงต่อประเด็นแย่งไมโครโฟนของอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงต่อการถือครองที่ดิน การได้มาของที่ดินว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ และผู้ครอบครองล่าสุด แต่นายทวีปฏิเสธการตอบคำถามเหล่านั้น ระบุว่า “เรื่องที่อยู่ระหว่างตรวจสอบผมจะไม่ขอให้รายละเอียด” จากนั้นขอให้สื่อมวลชนรอฟังการแถลงเนื้อหาที่ตั้งใจให้แล้วเสร็จ โดยใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จากนั้นสื่อมวลชนได้ย้ำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อการได้มาและการถือครองที่ดิน โดยนายทวีตอบว่า “ผมซื้อมาจากนายทหารคนหนึ่ง แต่นายทหารคนนั้นจะได้มาอย่างไรผมไม่ทราบ ซึ่งเขาเล่าว่าที่ดินที่ขายนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากบิดา ซึ่งปู่ให้มา และใช้เป็นที่ทำการเกษตร”

เมื่อถามย้ำว่าในเอกสารที่จะต่อสู้คดีมีชื่อระบุชัดเจนหรือไม่ว่าใครถือครองที่ดิน นายทวีกล่าวว่า “แน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ปารีณาไม่รู้ ผมเป็นคนถือครองอยู่” เมื่อถามย้ำว่าทำไม น.ส.ปารีณาถึงนำที่ดินในพื้นที่ไปแจ้งเป็นทรัพย์สินที่รายงานต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายทวีปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ระบุว่า “เอาละ เดี๋ยวความจริงจะปรากฏ”