วันที่ 2 ธันวาคม 2562 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษรายงานว่า เมื่อวานนี้ ทางการจีนได้ประกาศกฎใหม่ล่าสุดที่มีผลทั่วประเทศ ให้ประชาชนผู้ลงทะเบียนซิมมือถือใหม่ทุกคน จะต้องผ่านระบบสแกนจดจำใบหน้า

โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศของจีนกล่าวไว้ว่า แนวทางดังกล่าวเริ่มประกาศครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยขอให้บริษัทโทรคมนาคม ติดต่อเครื่องมือทางเทคนิคหรือระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อใช้ตรวจสอบอัตลักษณ์ผู้คนที่จะลงทะเบียนซิมมือถือ โดยร้านจำหน่ายทั่วประเทศได้ดำเนินการติดตั้งจนถึงเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการประกาศใช้กฎเกณฑ์ล่าสุด ซึ่งกฎดังกล่าวกระทรวงฯอ้างว่า จะปกป้องสิทธิและประโยชน์อันชอบธรรมของพลเมืองบนโลกไซเบอร์ เป็นการทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตชาวจีนสามารถถูกติดตามได้ง่าย

จีนได้ใช้ระบบจดจำใบหน้าตั้งแต่โรงเรียนมัธยมไปจนถึงการแสดงคอนเสิร์ตและการขนส่งมวลชน จนเกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและความยินยอมของผู้ใช้ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้องที่อาจเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับคดีว่าด้วยการใช้ระบบจดจำใบหน้า โดยศาสตราจารย์รายนี้ได้กล่าวหาบริษัทซาฟารี พาร์คฐานละเมิดกฎคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ด้วยการสแกนใบหน้าและนำเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม

ด้านผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า จีนขาดความสามารถในการกำกับดูแลการใช้งานระบบจดจำใบหน้า โดยตอนนี้ มีมากกว่า 20 บริษัทด้านไอทีของจีนได้เริ่มร่างมาตรฐานระดับสำหรับภาคอุตสาหกรรมไว้แล้ว

ขณะที่ องค์กรสิทธิมนุษยชน ได้เรียกวิธีการดังกล่าวให้เป็นอีกขั้นของการสร้างยุคมือของรัฐสอดแนม ที่หลายเมืองจีนกำลังใกล้เหมือนมณฑลซินเจียงที่พลเมืองถูกเฝ้าติดตามเข้าไปทุกที

ทั้งนี้ บรรดาผู้ใช้งานในเว่ยโป โซเชียลมีเดียของจีน มีมุมมองต่อเรื่องนี้จนแตกออกเป็น 2 กลุ่ม ระหว่างผู้สนับสนุนที่มองเรื่องความมั่นคงปลอดภัย กับผู้คัดค้านที่มองเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว