“วีระ” แจ้งความ “ทวี” พ่อปารีณารุกป่า ระบุคนละที่กับลูกสาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ไปแจ้งความเพิ้อเอาผิด นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของน.ส.ปารีณา ที่ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กรณีที่บุกรุกป่าสงวนและพื้นที่ป่าไม้ เนื้อที่ประมาณ 1 พันไร่ ซึ่งเป็นคนละจุดกับฟาร์มไก่ของน.ส.ปารีณา เบื้องต้นจากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการใช้เลี้ยงวัว ซึ่งเมื่อแจ้งความแล้วเสร็จ นายวีระ ยังได้พาพนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง เดินทางไปยังจุดที่อ้างว่าเป็นบริเวณที่นายทวี บุกรุกป่าด้วย

ทั้งนี้ที่ที่นายวีระ อ้างว่าเป็นไร่ของนายทวี ซึ่งบุกรุกป่านั้น ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของเขาสน พื้นที่ม.9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยตั้งอยู่ตรงข้ามกับฟาร์มไก่ของน.ส.ปารีณา ทั้งนี้นายวีระ อ้างว่า ปัจจุบัน นายทวี ได้ใช้พื้นที่แห่งนี้ในการเลี้ยงปศุสัตว์

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายวีระ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ คงเปรม รองสว. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม บิดานางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐาน บุกรุกป่าตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และที่ป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และมีการลงบันทึกประจำวัน รับคำร้องทุกข์ เป็นคดีอาญาที่ 419/2562 เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้มี พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผู้กำกับการ สภ.สวนผึ้ง และพ.ต.ท.ภาสกร อยู่เย็น รองผู้กำกับการสอบสวน ร่วมรับคำร้องทุกข์ด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการแจ้งความร้องทุกข์ นายวีระ เปิดเผยว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายทวี ไกรคุปต์ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดการบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ที่เป็นป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ปี พ.ศ.2484 ได้นำหลักฐานที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ และก็เอกสารข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความผิดนั้น ทางตนได้พาพนักงานสอบสวนไปลงพื้นที่ตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก และมีการครอบครองมาหลายสิบปี หลักฐานทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าตนไปทำเอง แต่เป็นการกระทำที่นายทวี ทำขึ้นมานานแล้ว ในขณะที่ตนพาพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก ก็ได้รับข้อมูลจากชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าเป็นที่ของนายทวี ที่เข้าไปครอบครองที่ดินเกือบ 40 ปีแล้ว

นายวีระ กล่าวอีกว่า ที่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายทวี ในข้อหาบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติปี พ.ศ.2507 และข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ปี พ.ศ.2484 ส่วนกรณีที่นางสาวปารีณา ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนในฐานความผิด แจ้งความอันเป็นเท็จ ทั้งที่รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น เป็นการแจ้งความเพื่อจะแกล้งให้ตนต้องรับโทษทางอาญา และในฐานความผิด หมิ่นประมาท ใส่ความโดยการโฆษณา ทางสื่อสารมวลชนโดยมุ่งหมายให้ตนได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 , 173, 174, และ 326, 328 ตนถือว่าเป็นสิทธิของนางสาวปารีณา ตนอยากให้ประชาชนรอดูต่อไปในอีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏ สำหรับตนไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย

สำหรับเรื่องที่นางสาวปารีณา ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อแจ้งขอแก้ไขรายการในบัญชีหนี้สินทรัพย์สิน เนื่องจากเกิดความคลาดเคลื่อน และซ้ำซ้อน ในเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ได้ยื่นเสียภาษี ในปี 2549 ได้แจ้ง ป.ป.ช. ซ้ำซ้อนกับเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ยื่นเสียภาษีในปี 2553 ทำให้จำนวนเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 กว่าไร่ ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่รวมประมาณ 600 กว่าไร่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังยุติไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ก็คือป่าไม้ เนื้อที่ทั้งหมดมีเท่าไหร่ ป่าไม้ และทาง ส.ป.ก. จะต้องมาสรุปให้มันแน่ชัดและชัดเจนขึ้น